บทความและความรู้


5 เทคนิคการขับรถเพื่อถนอมเครื่องยนต์ที่ผู้ใช้รถทุกคนควรรู้

19 ก.ย. 2567, 06:42 265

        รถยนต์เป็นยานพาหนะที่มีการเสื่อมสภาพและเกิดการสึกหรออยู่ตลอดเวลา ยิ่งตัวรถมีอายุการใช้งานนานเท่าไหร่ เจ้าของรถก็จำเป็นที่จะต้องตรวจเช็กสภาพและคอยดูแลรถอย่างสม่ำเสมอมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งนอกจากปัจจัยภายนอกที่เราต้องคอยระมัดระวังแล้ว มันยังมีปัจจัยอื่น ๆ อย่างนิสัยหรือความเคยชินในการขับรถ ที่เป็นสาเหตุหลักของปัญหามากมายที่อาจเกิดขึ้น เช่น ยางรถเสื่อมสภาพ, ระบบเบรกมีปัญหา หรือ อาการรถสตาร์ทไม่ติด เป็นต้น และเพื่อไม่ให้รถยนต์สุดที่รักของคุณต้องเสื่อมสภาพก่อนเวลาอันควร เรา บริษัท ไอดีไดรฟ์ จำกัด จึงได้รวบรวมเทคนิคการขับรถเพื่อถนอมเครื่องยนต์และชิ้นส่วนภายใน มาให้ทุกคนได้อ่านและลองศึกษากันดูนะคะ

1. ไม่ใช้ความเร็วที่มากเกินไป

การขับรถเร็วนอกจากจะทำให้เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุขึ้นแล้ว มันยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ชิ้นส่วนภายในของตัวรถเกิดการสึกหรอและเสื่อมสภาพไวขึ้น เพราะเครื่องยนต์จะทำงานหนักและรับภาระมากขึ้นเกินความจำเป็น นอกจากนี้การเร่งความเร็วรถยังทำให้เครื่องยนต์ใช้เชื้อเพลิงมากกว่าปกติ ทำให้สิ้นเปลืองพลังงานและปล่อยมลพิษมากขึ้นอีกด้วย  ดังนั้นเพื่อเป็นการถนอมเครื่องยนต์และชิ้นส่วนต่างๆ คุณควรขับรถในความเร็วที่เหมาะสมหรือใช้ความเร็วตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อให้รถของคุณมีอายุการใช้งานที่ยาวนานไม่สึกหรอและเสียหายก่อนเวลาอันควรค่ะ

2. ไม่เหยียบเบรกกะทันหันบ่อย ๆ

การเหยียบเบรกกะทันหันมีความเสี่ยงที่จะทำให้เราสูญเสียการควบคุมรถจนทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ ในขณะเดียวกันมันก็อาจทำให้เบรก เกิดความเสียหายและเสื่อมสภาพก่อนเวลาอันควร ดังนั้นหากคุณต้องการถนอมผ้าเบรกให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน คุณก็จำเป็นที่จะต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการขับรถเสียใหม่ พยายามผ่อนความเร็วทุกครั้งก่อนการเหยียบเบรก หลีกเลี่ยงการเหยียบเบรกกะทันหันหรือเหยียบเบรกจนมิดหากไม่ฉุกเฉินจริง ๆ เพราะนอกจากจะช่วยลดการสึกหรอของผ้าเบรกได้แล้ว เทคนิคนี้ยังช่วยให้คุณขับรถได้อย่างนุ่มนวลมากขึ้นอีกด้วย

 3. ใช้ความเร็วที่เหมาะสมเมื่อขับรถบนถนนลูกรัง

 

หากเราจำเป็นต้องขับรถบนถนนลูกรังตามต่างจังหวัดหรือในสถานที่ที่ห่างไกล เราควรขับรถด้วยความเร็วที่เหมาะสม อย่าใช้ความเร็วหรือเร่งความเร็วมากจนเกินไป เพราะสภาพถนนที่ขรุขระ เป็นหลุมเป็นบ่อและเต็มไปด้วยอุปสรรคนั้น อาจส่งผลให้รถของคุณเกิดอุบัติเหตุหรือเกิดความเสียหายได้ แรงกระแทกอาจทำให้ระบบช่วงล่วงสึกหรอเร็วขึ้น ล้อรถที่กระแทกขอบหลุมอาจคดได้และยางรถมีโอกาสยางแตกและรั่วได้ ดังนั้นหากเราไม่ต้องการให้ยางรถเสื่อมสภาพหรือเกิดความเสียหายก่อนเวลาอันควร คุณก็ควรหลีกเลี่ยงการขับรถบนถนนลูกรังหรือบนถนนที่มีอุปสรรคตั้งแต่แรก หรือถ้าหากคุณเลี่ยงไม่ได้ก็ควรขับรถในความเร็วที่เหมาะสม ค่อย ๆ ขับ ค่อย ๆ ดูทาง พยายามขับเคลื่อนรถด้วยความระมัดระวังมากที่สุดครับ

4. อุ่นเครื่อง 2-3 นาทีหลังสตาร์ท

หลังสตาร์ทเครื่องยนต์ ไม่ควรเหยียบคันเร่งออกไปทันที เพราะจะทำให้เครื่องยนต์สึกหรอเร็วขึ้น ควรอุ่นเครื่องให้เครื่องร้อนและระบบภายในเครื่องยนต์ทำงานจนเข้าที่ก่อน โดยสังเกตได้จากเกจ์วัดความร้อนบนหน้าปัทม์หากรีบหรือหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็ควรขับเบาๆอย่าเพิ่งเหยียบคันเร่งมากเกินไปขับเบาๆจนเครื่องร้อนก่อน เพื่อให้เครื่องยนต์และระบบเกียร์มีอายุการใช้งานที่ยาวนานไม่เสียหายก่อนเวลาอันควรค่ะ

5. จอดรถแช่ 2-3 นาทีก่อนดับเครื่อง 

        หากคุณกำลังเดินทางไกลแล้วต้องจอดแวะพักที่จุดพักรถ คุณควรจอดรถแช่ไว้สัก 2-3 นาทีเพื่อให้เครื่องยนต์ทำการปรับสภาพและมีอุณหภูมิลดลงเล็กน้อยก่อนดับเครื่อง เพราะมันจะทำให้ระบบการทำงานภายในมีการปรับตัวและค่อย ๆ ผ่อนคลายลงหลังจากทำงานมาอย่างหนัก วิธีนี้จะช่วยให้เครื่องยนต์และระบบการทำงานที่เกี่ยวข้องมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น ไม่สึกหรอหรือเสื่อมสภาพก่อนเวลาอันควร นอกจากเทคนิคการขับรถที่ควรนำไปใช้เพื่อช่วยถนอมเครื่องยนต์แล้ว การดูแลรักษาและเตรียมรถให้พร้อมอยู่ตลอดเวลาก็เป็นสิ่งสำคัญที่เราไม่ควรมองข้าม หากคุณเป็นเจ้าของรถสายจอดที่ไม่มีเวลานำรถออกไปขับ คุณก็ควรใช้เครื่องชาร์จแบตเตอรี่คอยชาร์จไฟให้เต็มอยู่เสมอ เพื่อป้องกันปัญหาแบตเตอรี่เสื่อมจากการจอดนาน ช่วยให้ แบตเตอรี่มีอายุการใช้งานที่ยาวนานไม่ต้องเปลี่ยนแบตใหม่บ่อย ๆ ให้สิ้นเปลืองครับ พร้อมป้องกันปัญหาแบตเตอรี่เสื่อมจากการจอดนานที่ต้นเหตุด้วย เครื่องชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์  CTEX MXS 5.0 เครื่องชาร์จแบตเตอรี่อัจฉริยะที่ขายดีที่สุดในท้องตลาด เทคโนโลยีลิขสิทธิ์เฉพาะจากประเทศสวีเดน ใช้งานง่าย ปลอดภัย ไม่ต้องมีความรู้เรื่องช่างก็สามารถใช้งานได้ในทันที มาพร้อมกับระบบตัดไฟอัตโนมัติเมื่อชาร์จเต็ม สามารถชาร์จทิ้งไว้ได้เป็นเดือน ๆ โดยไม่ทำให้แบตเตอรี่เสีย เป็นมิตรกับระบบไฟฟ้าภายในตัวรถอย่างแน่นอน

 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : aprtech.co.th


แสดงความคิดเห็น

Scroll to Top