บทความและความรู้


9 วิธีหลังเดินทางไกล ตรวจเช็กอะไรบ้าง ?

22 พ.ย. 2567, 05:39 614

การเช็กสภาพรถหลังจากเดินทางไกลเป็นสิ่งที่สำคัญเพื่อให้เรามั่นใจว่ารถของเราอยู่ในสภาพดีเพียงพอพร้อมใช้งาน เพื่อเป็นการป้องกันการเกิดปัญหาและช่วยให้มั่นใจในความปลอดภัยการขับขี่ของเราในการเดินทางครั้งถัดไป วันนี้ทาง บริษัท ไอดีไดรฟ์ จำกัด แนะนำ 9 วิธีการตรวจสภาพรถและบำรุงรักษาระบบเบื้องต้น สามารถทำตามขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อเช็กสภาพรถหลังจากเดินทางไกลมาแล้วกันค่ะ

 

1.ทำความสะอาดรถ

          ล้างรถให้สะอาดทั้งภายนอกและภายใน เนื่องจากการเดินทางไกลอาจทำให้รถเสียหายจากสิ่งสกปรกหรือฝุ่น หิน ดินทราย ดังนั้นหากมีการเดินทางไกลอย่าลืมที่จะกลับมาล้างรถก่อนใช้งานกันต่อนะคะ

                 

2.เช็กสภาพลมยาง

          การเดินทางไกลอาจส่งผลให้ความดันลมยางลดลง จึงควรเช็กลมยาง เพื่อป้องกันการสึกหรอของยางและลดโอกาสเกิดอันตรายจากการขับด้วยความเร็วสูง นอกจากนั้นยังควรตรวจสภาพยางว่าไม่มีอะไรเข้าไปทิ่ม อุด ตำ จนเป็นสาเหตุให้เกิดการรั่วซึมอย่างช้าๆ

          หากเราพบว่าล้อใดล้อหนึ่งมีความดันลมน้อยผิดปกติ ให้เติมลมรถเป็นปกติ หรือตรวจเช็กเพื่อสันนิษฐานว่าล้อข้างนั้นอาจมีอะไรทิ่มเข้าไปอยู่ในเนื้อยาง เป็นเหตุให้เกิดการรั่วซึมอย่างช้าๆ ทางที่ดีควรปะยางหรือเปลี่ยนใหม่

                  

3.เช็กน้ำมันเครื่อง

          เช็คน้ำมันเครื่อง ควรเช็กระดับน้ำมันเครื่องเพื่อให้แน่ใจว่าอยู่ในระดับปกติ หากพบว่าน้ำมันเครื่องพร่องลงไปมากหรือต่ำกว่าระดับ MIN ควรตรวจเช็กว่ามีการรั่วซึมจุดใดหรือไม่ นอกจากนั้นควรเช็กสภาพน้ำมันเครื่องว่าไม่ดำจนเกินไป รวมถึงไม่มีเศษเขม่าเจือปนอยู่ หากพบควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องใหม่

                  

4.เช็กระบบแสงไฟ

          ตรวจสอบทุกระบบแสงไฟบนรถ เช่น ไฟหน้า ไฟท้าย ไฟเลี้ยว และไฟเบรก เพื่อให้แน่ใจว่าทุกระบบทำงานอย่างถูกต้อง

                  

5.เช็กระบบเครื่องปรับอากาศ

          ตรวจสอบการทำงานของเครื่องปรับอากาศ เพื่อให้แน่ใจว่าสามารถทำความเย็นหรือร้อนได้อย่างปกติเพื่อให้ทำงานอย่างถูกต้องและมีการทำความสะอาดตลอด

                  

6.เช็กช่วงล่างและระบบกันสะเทือน

          การขับรถไปยังที่ที่ไม่คุ้นทาง อาจส่งผลให้ขับตกหลุมได้ ซึ่งอาจส่งผลให้ศูนย์ล้อผิดเพี้ยนไปได้ ให้ลองเช็กเบื้องต้นด้วยการปล่อยพวงมาลัยขณะที่รถเคลื่อนที่ไปข้างหน้า หากรถยังคงสามารถวิ่งไปตรงๆ ก็ไม่มีปัญหา

          ทั้งนี้ควรเช็กสภาพถนนว่ามีการลาดเอียงไปข้างใดข้างหนึ่งหรือไม่ ซึ่งอาจส่งผลให้รถแฉลบออกด้านข้างได้เช่นกัน

                 

7.ไส้กรองอากาศ

          เช็คไส้กรองอากาศ การเดินทางไปต่างจังหวัดอาจต้องขับผ่านถนนที่มีฝุ่นมากกว่าปกติ จึงควรเช็กไส้กรองอากาศว่ามีสิ่งสกปรกอุดตันอยู่หรือไม่ หากมีก็ควรเป่าออก หรือเปลี่ยนไส้กรองใหม่ เพื่อให้เครื่องยนต์สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ

                 

8.เช็กระบบเบรก

          หลังจากเดินทางไกล ควรตรวจเช็กผ้าเบรกด้วย เนื่องจากผ้าเบรกอาจมีการสึกหรอ วิธีสังเกตคือ เวลาเบรกจะมีเสียงผิดปกติ หรือเวลาขับด้วยความเร็วสูงพวงมาลัยจะสั่น ถ้ามีอาการเหล่านี้ควรนำรถไปให้ช่างตรวจเช็กโดยด่วน

                  

9.เช็กระบบน้ำหล่อเย็น

          ควรตรวจสอบระดับน้ำหล่อเย็นในหม้อหล่อเย็น ทั้งในหม้อน้ำและหม้อพักน้ำและตรวจสอบการรั่วหรือรอยแตกบนท่อ ทางที่ดีน้ำหล่อเย็นไม่ควรลดระดับไปมาก เมื่อเทียบกับก่อนเดินทางไกล และควรเติมให้ได้ระดับพอดีก่อนใช้งานต่อไป

                 

 

สิ่งสุดท้ายที่สำคัญมาก ๆ คือการเตรียมความพร้อมของร่างกายโดยเฉพาะผู้ขับขี่ ควรพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 7-8 ชั่วโมง งดรับประทานยาที่ทำให้ง่วงซึมขณะขับรถ เพราะอาจเกิดการหลับในได้ ควรศึกษาเส้นทางต่าง ๆก่อนออกเดินทางให้พร้อม ไม่ควรดื่มแอลกอฮอล์ก่อนออกเดินทางหรือขณะเดินทาง ต้องมีสติในการขับรถเพื่อความปลอดภัยของตัวเราเองและเพื่อนร่วมทาง และหากมีความเหนื่อยล้าระหว่างเดินทางควรหยุดพักสายตาในจุดที่ปลอดภัยกันด้วยนะคะ


แสดงความคิดเห็น

Scroll to Top