บทความและความรู้


"7 วิธีหาเงินจากการขับรถ ที่หลายคนอาจยังไม่เคยรู้!"

ในช่วงที่เศรษฐกิจกำลังซบเซาไม่คึกครื้นเหมือนที่ผ่านมา เรียกค่าใช้จ่ายแต่ละเดือนแถบจะไม่พอใช้จ่าย วันนี้ ไอดีไดรฟ์ จะมาแนะนำอาชีพสำหรับหารายได้เสริมในวันที่ขาดกระเป๋าแบบนี้ 1. ขับแกร็บ /  LINE MAN / Bolt รายได้เฉลี่ย 800–1,500 บาทต่อวัน (ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาและเมือง) 2. รับจ้างขับรถให้ผู้สูงอายุ / เด็กนักเรียน มีคนต้องการคนขับที่ไว้ใจได้มากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ 3. ขับรถรับส่งของ (เดลิเวอรี่ / แพ็คเกจ / เอกสาร) เหมาะกับคนมีรถกระบะ หรือแม้แต่เก๋งก็เริ่มได้ 4. ปล่อยรถให้เช่า พร้อมบริการขับเอง (Self-drive + Driver) ถ้าคุณมีรถที่ดูดี/ปลอดภัย อาจเปิดเป็นธุรกิจเล็ก ๆ ได้เลย 5. รับจ้างขับรถพาเที่ยว / เที่ยวในจังหวัด / one day trip โดยเฉพาะในเมืองท่องเที่ยว เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต อีสานใต้ 6. ขับรถทำคอนเทนต์ (YouTube / TikTok) เช่น ช่องรีวิวรถ รีวิวเส้นทางท่องเที่ยว หรือ Vlog ขับรถส่งของจริง สร้างรายได้จากยอดวิว + สปอนเซอร์ 7. ขับรถไปขายของ (ฟู้ดทรัค / รถพับได้ / รถขายน้ำ) ใช้รถให้เป็น "ร้านเคลื่อนที่" ไม่ต้องเช่าร้านก็หาเงินได้ ไม่ว่าคุณจะมีรถยนต์ส่วนตัว รถกระบะ หรือแม้แต่แค่มีใบขับขี่ วันนี้คุณสามารถเริ่มสร้างรายได้เสริมทันทีจากสิ่งใกล้ตัว อย่าปล่อยให้รถจอดเฉย อย่าปล่อยให้ความสามารถถูกพักไว้ ใช้เวลาว่างให้คุ้ม เปลี่ยนพวงมาลัยให้เป็นรายได้ เพราะเมื่อคุณขับได้...รายได้ก็มาได้เหมือนกัน สนใจเรียนเรียนขับรถพร้อมสอบใบขับขี่สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ: Facebook : สอนขับรถพร้อมสอบใบขับขี่ที่ ไอดี ไดร์ฟเวอร์ Line : @iddrives (มี@ข้างหน้า) โทรศัพท์ : 098-2610126 หรือ 0934083377 อีเมล : contact@iddrives.co.th

9 10 มิ.ย. 2568, 13:04

ระวังถนนลื่น เบรกไม่อยู่ อันตรายที่มาพร้อมฝนตก

เมื่อฝนเริ่มโปรยปราย ไอดี ไดรฟ์ เชื่อว่าหลายๆคนอาจรู้สึกชุ่มฉ่ำ เย็นสบาย แต่สำหรับผู้ใช้รถใช้ถนนแล้ว ฝนไม่ได้มาแค่ความสดชื่น แต่ยังมาพร้อม อันตรายที่มองไม่เห็น โดยเฉพาะ “ถนนลื่น” ซึ่งเป็นสาเหตุอันดับต้น ๆ ของอุบัติเหตุในฤดูฝน  ทำไมถนนถึงลื่นในช่วงฝนตก? ทันทีที่ฝนตกลงมาโดยเฉพาะในช่วงแรก พื้นถนนที่มีฝุ่น, ดิน, น้ำมันเครื่อง หรือเศษคราบต่าง ๆ จะถูกผสมเข้ากับน้ำฝน กลายเป็นฟิล์มบาง ๆ บนผิวถนน ทำให้รถสูญเสียแรงยึดเกาะ ยิ่งหากใช้ความเร็วสูงหรือเบรกกระทันหัน โอกาสลื่นไถลก็ยิ่งมากขึ้น  ผลที่ตามมาคืออะไร? เบรกไม่อยู่ รถอาจไถลไปชนคันหน้า หรือเสียหลักตกข้างทาง พวงมาลัยควบคุมไม่ได้ โดยเฉพาะหากยางรถเก่า ดอกยางตื้น หรือแรงดันลมไม่เหมาะสม เกิดอาการเหินน้ำ (Hydroplaning) รถจะลอยบนผิวน้ำชั่วคราว ทำให้ควบคุมทิศทางไม่ได้เลย  วิธีลดความเสี่ยงถนนลื่นช่วงฝนตก ลดความเร็วลง ขับช้ากว่าปกติ โดยเฉพาะช่วงฝนเริ่มตก หรือเส้นทางที่ไม่คุ้นเคย เว้นระยะห่างจากรถคันหน้าให้มากขึ้น เพราะระยะเบรกจะยาวขึ้นกว่าปกติหลายเท่า หลีกเลี่ยงการเบรกกะทันหันหรือหักพวงมาลัยเร็ว ๆ เช็กยางรถเป็นประจำ ดูว่าดอกยางลึกพอหรือยัง ยางไม่แข็ง ไม่บวม และลมยางอยู่ในระดับที่เหมาะสม ฝึกใช้เบรกอย่างนุ่มนวล หากใช้รถที่ไม่มีระบบ ABS ควรแตะเบรกเป็นจังหวะ ๆ เพื่อป้องกันล้อล็อก ฝนตกไม่ใช่ปัญหาใหญ่ ถ้าเราขับขี่ด้วยสติ ไม่ประมาท และเตรียมรถให้พร้อมอยู่เสมอ แค่ชะลอความเร็ว คุณก็อาจช่วยชีวิตใครบางคนไว้ได้แล้ว สนใจเรียนเรียนขับรถพร้อมสอบใบขับขี่สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ: Facebook : สอนขับรถพร้อมสอบใบขับขี่ที่ ไอดี ไดร์ฟเวอร์ Line : @iddrives (มี@ข้างหน้า) โทรศัพท์ : 098-2610126 หรือ 0934083377 อีเมล : contact@iddrives.co.th    

36 11 มิ.ย. 2568, 02:49

ข้อควรรู้ก่อนเรียนขับรถ: เตรียมตัวให้พร้อม สู่การเป็นนักขับมืออาชีพกับ “ไอดีไดร์ฟเวอร์” (สำหรับรถยนต์และรถจักรยานยนต์)

การตัดสินใจ เรียนขับรถเป็นก้าวสำคัญที่จะเปลี่ยนวิถีชีวิตและเพิ่มความคล่องตัวในการเดินทางไม่ว่าคุณจะตั้งใจจะขับขี่ รถยนต์ หรือ รถจักรยานยนต์การเตรียมตัวที่ดีจะทำให้การเรียนรู้เป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพโรงเรียนสอนขับรถ “ไอดีไดร์ฟเวอร์” ขอแนะนำ ข้อควรรู้ก่อนเรียนขับรถเพื่อเตรียมความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจให้คุณเป็นนักขับที่มีคุณภาพและปลอดภัย 1. ตรวจสอบคุณสมบัติและอายุให้พร้อม: ก่อนเริ่มต้นเรียน คุณควรตรวจสอบคุณสมบัติเบื้องต้นที่สำคัญที่สุด:  สำหรับรถจักรยานยนต์: ต้องมีอายุตั้งแต่ 15 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป  สำหรับรถยนต์: ต้องมีอายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป การปฏิบัติตามเกณฑ์อายุที่กฎหมายกำหนดเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้การดำเนินการขอใบขับขี่เป็นไปอย่างถูกต้อง 2. สุขภาพร่างกายและจิตใจต้องพร้อมสำหรับการขับขี่:การขับขี่เป็นทักษะที่ต้องใช้สมาธิและการตัดสินใจที่รวดเร็ว การเตรียมความพร้อมทางกายและใจจึงเป็นสิ่งจำเป็น:  สายตาและการมองเห็น:ควรตรวจสอบว่าสายตาของคุณอยู่ในเกณฑ์ปกติสามารถมองเห็นได้ชัดเจนทั้งในระยะใกล้และไกลรวมถึงการแยกแยะสีต่างๆ ได้อย่างถูกต้อง หากมีปัญหาด้านสายตาควรปรึกษาจักษุแพทย์ก่อนเริ่มเรียน  การได้ยิน: การได้ยินเสียงรอบข้าง เช่น เสียงแตรรถหรือเสียงเครื่องยนต์ เป็นสิ่งจำเป็นในการขับขี่ควรตรวจเช็คการได้ยินของคุณ  สมาธิและปฏิกิริยา: การขับรถต้องใช้สมาธิและการตัดสินใจที่รวดเร็วหากคุณมีปัญหาสมาธิสั้นหรือมีโรคประจำตัวที่อาจส่งผลต่อการตอบสนองควรปรึกษาแพทย์และแจ้งให้โรงเรียนสอนขับรถทราบ  ความพร้อมทางอารมณ์: การเรียนรู้สิ่งใหม่ๆอาจทำให้เกิดความเครียดหรือความกังวล การรักษาสุขภาพจิตให้ดีมีความอดทน และใจเย็น จะช่วยให้การเรียนขับรถมีประสิทธิภาพมากขึ้น 3. ทำความเข้าใจเรื่องกฎหมายและข้อบังคับเบื้องต้น:แม้จะยังไม่ได้เริ่มเรียนขับรถ แต่การศึกษา ข้อควรรู้ก่อนเรียนขับรถเกี่ยวกับกฎจราจรและป้ายจราจรเบื้องต้นจะช่วยให้คุณเข้าใจหลักการขับขี่มากขึ้นและทำให้การเรียนรู้ในภาคทฤษฎีง่ายขึ้นมาก “ไอดีไดร์ฟเวอร์”มีหลักสูตรการสอนที่ครอบคลุมในเรื่องนี้แต่การศึกษาล่วงหน้าจะช่วยให้คุณได้เปรียบ 4. เตรียมตัวกับการเรียนรู้ที่อาจต้องใช้เวลา:การขับรถเป็นทักษะที่ต้องใช้การฝึกฝนและความอดทนไม่ใช่ทุกคนที่จะขับเป็นได้ภายในไม่กี่วันการเตรียมใจให้พร้อมกับการเรียนรู้ที่อาจใช้เวลาและต้องฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้คุณไม่ท้อถอยและพัฒนาทักษะได้ดียิ่งขึ้น 5. เลือกโรงเรียนสอนขับรถที่ได้มาตรฐานและน่าเชื่อถือ (เลือก“ไอดีไดร์ฟเวอร์” !):นี่คือ ข้อควรรู้ก่อนเรียนขับรถ ที่สำคัญที่สุด การเลือกโรงเรียนสอนขับรถที่มีคุณภาพอย่าง “ไอดีไดร์ฟเวอร์”จะช่วยให้คุณได้รับประโยชน์สูงสุด:  ได้รับอนุญาตจากกรมการขนส่งทางบก: “ไอดีไดร์ฟเวอร์”เป็นโรงเรียนสอนขับรถที่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องจากกรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคมซึ่งรับประกันคุณภาพการสอนและมาตรฐานของหลักสูตร  ครูผู้สอนมีประสบการณ์และได้รับการรับรอง:ทีมครูผู้สอนของเรามีความรู้ ความสามารถ และมีเทคนิคการสอนที่ดีสามารถถ่ายทอดความรู้ให้เข้าใจง่าย  มีสนามฝึกหัดที่ได้มาตรฐาน:สนามฝึกหัดที่ปลอดภัยและจำลองสถานการณ์จริงจะช่วยให้คุณฝึกฝนได้อย่างเต็มที่  รถยนต์/รถจักรยานยนต์ที่ใช้สอนทันสมัยและปลอดภัย:รถทุกคันอยู่ในสภาพดี มีการบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอเพื่อความปลอดภัยในการเรียน  มีหลักสูตรที่ครบถ้วนและยืดหยุ่น พร้อมสอบได้ที่โรงเรียน:หลักสูตรของเราครอบคลุมทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติและสามารถปรับให้เข้ากับตารางเวลาของผู้เรียนได้ที่สำคัญคือคุณสามารถ สอบทฤษฎีและปฏิบัติได้ที่โรงเรียนซึ่งจะช่วยประหยัดเวลาและเพิ่มความสะดวกสบายอย่างมาก  บริการครอบคลุมพื้นที่: ไม่ว่าคุณจะอยู่ใน ขอนแก่น, มหาสารคาม,ปทุมธานี, สระบุรี หรือจังหวัดอื่นๆ ใน ภาคตะวันออกเฉลียงเหนือ เราพร้อมให้บริการคุณ6. เตรียมคำถามและเปิดใจเรียนรู้:เมื่อเริ่มเรียนขับรถ อย่าลังเลที่จะถามคำถามกับครูผู้สอนหากมีข้อสงสัยหรือไม่เข้าใจในเรื่องใดๆการเปิดใจเรียนรู้และรับฟังคำแนะนำจะช่วยให้คุณพัฒนาทักษะการขับขี่ได้อย่างรวดเร็ว“ไอดีไดร์ฟเวอร์” : พร้อมเป็นเพื่อนคู่คิดในการเรียนขับรถของคุณที่โรงเรียนสอนขับรถ “ไอดีไดร์ฟเวอร์” เราเข้าใจ ข้อควรรู้ก่อนเรียนขับรถเหล่านี้เป็นอย่างดีและพร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการเตรียมความพร้อมของคุณด้วยทีมงานคุณภาพ หลักสูตรที่ได้มาตรฐานและความมุ่งมั่นที่จะสร้างนักขับขี่ที่มีความรับผิดชอบและปลอดภัยบนท้องถนน มั่นใจได้ว่าการเรียนขับรถกับเราจะเป็นประสบการณ์ที่ดีที่สุดสำหรับคุณ สนใจเรียนเรียนขับรถพร้อมสอบใบขับขี่สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ: Facebook : สอนขับรถพร้อมสอบใบขับขี่ที่ ไอดี ไดร์ฟเวอร์ Line : @iddrives (มี@ข้างหน้า) โทรศัพท์ : 098-2610126 หรือ 0934083377 อีเมล : contact@iddrives.co.th

34 10 มิ.ย. 2568, 10:26

น้ำในหม้อน้ำสำคัญอย่างไร? ไม่ใช่แค่ของเหลวธรรมดา แต่คือหัวใจของการป้องกันเครื่องยนต์พัง!

วันนี้ ไอดี ไดรฟ์ พามาทำความรู้จัก“น้ำในหม้อน้ำ” กัน คือของเหลวที่คนใช้รถควรรู้จักและใส่ใจอย่างยิ่ง เพราะมันมีหน้าที่สำคัญในการ ควบคุมอุณหภูมิของเครื่องยนต์ ให้ทำงานได้อย่างราบรื่น ไม่ร้อนจนเกินไป  หน้าที่ของน้ำในหม้อน้ำ ระบายความร้อนจากเครื่องยนต์ ที่เกิดจากการเผาไหม้ ป้องกันเครื่องยนต์ร้อนเกิน (โอเวอร์ฮีต) ช่วยรักษาอุปกรณ์ในระบบหล่อเย็นไม่ให้สึกกร่อน ช่วยให้น้ำหมุนเวียนได้ดีขึ้นเมื่อน้ำหล่อเย็นมีสารป้องกันสนิม (Coolant)  หากละเลยหรือน้ำแห้ง จะเกิดอะไรขึ้น? เครื่องยนต์ร้อนจัดจน ฝาสูบโก่ง หรือ เครื่องยนต์พัง ได้ อาจเกิดอุบัติเหตุจากรถดับกลางทาง ระบบปั๊มน้ำหรือท่อยางเสียหายเร็วกว่าปกติ  วิธีดูแลน้ำในหม้อน้ำ เช็กระดับน้ำในหม้อพักน้ำ เป็นประจำ (อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง) ห้ามเปิดฝาหม้อน้ำขณะที่เครื่องยังร้อน! (เสี่ยงน้ำพุ่งใส่) ใช้น้ำยาหล่อเย็น (Coolant) แทนน้ำเปล่าล้วน เพื่อประสิทธิภาพที่ดีกว่า เปลี่ยนถ่ายน้ำหล่อเย็นทุก 2 ปี หรือประมาณ 40,000 กม.  สรุป: น้ำในหม้อน้ำคือระบบหล่อเย็นสำคัญที่ช่วยยืดอายุเครื่องยนต์ของคุณ การใส่ใจและตรวจเช็กเป็นประจำช่วยป้องกันปัญหาใหญ่และค่าใช้จ่ายซ่อมแพงในอนาคต สนใจเรียนเรียนขับรถพร้อมสอบใบขับขี่สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ: Facebook : สอนขับรถพร้อมสอบใบขับขี่ที่ ไอดี ไดร์ฟเวอร์ Line : @iddrives (มี@ข้างหน้า) โทรศัพท์ : 098-2610126 หรือ 0934083377 อีเมล : contact@iddrives.co.th

40 9 มิ.ย. 2568, 16:06

จริงไหม? ขับเร็วประหยัดน้ำมันกว่า?

  ไอดี ไดรฟ์ เคยได้ยินคำพูดที่ว่าหลายคนอาจ “ขับเร็วประหยัดน้ำมันกว่า” ฟังดูขัดกับสามัญสำนึกอยู่ไม่น้อย เพราะเรามักเชื่อกันว่าการขับรถเร็วจะกินน้ำมันมากกว่า แล้วสรุปแล้ว...มันจริงหรือไม่? วันนี้เรามาไขข้อสงสัยนี้กันครับ “จริงบางกรณี แต่ไม่เสมอไป” การขับรถเร็ว อาจ ประหยัดน้ำมันกว่าการขับช้ามาก ๆ แต่ถ้าเร็วเกินไปก็จะทำให้สิ้นเปลืองมากขึ้น เช่นกัน มาดูเหตุผลทางเทคนิคกัน 1. รอบเครื่องยนต์มีผลโดยตรง หากขับด้วยความเร็วที่เครื่องยนต์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ (เช่น 80-100 กม./ชม. ในเกียร์สูงสุด) รถจะใช้น้ำมันน้อยต่อระยะทาง 1 กม. มากกว่าการขับช้ากว่านั้นในเกียร์ต่ำ 2. ความเร็วต่ำเกินไปก็ไม่ดี การขับช้าเกินไป (เช่น 30-50 กม./ชม.) อาจทำให้รอบเครื่องอยู่ในช่วงที่ไม่ประหยัด และยังต้องใช้เกียร์ต่ำ ส่งผลให้กินน้ำมันมากขึ้น 3. ขับเร็วเกินไป = ต้านลมเพิ่ม เมื่อความเร็วเกินกว่า 110 กม./ชม. แรงต้านอากาศจะเพิ่มขึ้นแบบทวีคูณ ทำให้เครื่องต้องใช้แรงและน้ำมันมากขึ้นในการวิ่ง 4. พฤติกรรมการขับขี่ก็สำคัญ การขับแบบเร่ง-เบรกบ่อย ขึ้นเขาเร็ว ๆ หรือลงเนินแล้วเหยียบคันเร่งต่อเนื่อง = เปลืองแน่นอน ไม่ว่าคุณจะเร็วหรือช้า  แล้วขับความเร็วเท่าไหร่จึงประหยัดที่สุด? โดยทั่วไปแล้ว ความเร็วที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการประหยัดน้ำมันจะอยู่ที่ประมาณ 80 – 100 กม./ชม. บนทางหลวง และควรใช้ เกียร์สูงสุด ที่เครื่องยนต์ยังทำงานได้ลื่นไหล  สรุปให้เข้าใจง่าย ขับช้าเกินไป  ไม่ประหยัด (เครื่องทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ) ขับเร็วพอเหมาะ (80-100 กม./ชม.)  ประหยัดที่สุด ขับเร็วเกินไป (110+ กม./ชม.)  เปลืองน้ำมันมาก    เคล็ดลับเพิ่มเติมในการขับรถให้ประหยัดน้ำมัน วางแผนเส้นทาง – หลีกเลี่ยงรถติด ขับทางเรียบให้ต่อเนื่อง ไม่เบรกบ่อย เช็คลมยางให้เหมาะสมอยู่เสมอ ไม่บรรทุกของหนักโดยไม่จำเป็น ใช้ระบบ Cruise Control เมื่อขับทางไกล จะขับเร็วหรือช้า ไม่ใช่แค่เรื่องประหยัด แต่ยังเป็นเรื่อง ความปลอดภัย อย่าลืมว่า “ขับขี่ปลอดภัย ถึงไว และถึงบ้านอย่างมีความสุข” สำคัญกว่าแค่การประหยัดน้ำมันครับ สนใจเรียนเรียนขับรถพร้อมสอบใบขับขี่สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ: Facebook : สอนขับรถพร้อมสอบใบขับขี่ที่ ไอดี ไดร์ฟเวอร์ Line : @iddrives (มี@ข้างหน้า) โทรศัพท์ : 098-2610126 หรือ 0934083377 อีเมล : contact@iddrives.co.th

56 11 มิ.ย. 2568, 02:17


Scroll to Top