เซฟไว้ก่อนเดินทาง
เบอร์สายด่วน แจ้งเหตุ ฉุกเฉิน
หน่วยงานช่วยเหลือด้านการเดินทาง
1584 : ร้องเรียนรถโดยสารสาธารณะ กรมการขนส่งทางบก
1356 : สอบถาม ร้องเรียน แจ้งเหตุ ศูนย์ปลอดภัยคมนาคม
1348 : สอบถามเส้นทางเดินรถ ขสมก.
อุบัติเหตุบนท้องถนน
1137 : แจ้งอุบัติเหตุ
1543 : รถเสีย อุบัติเหตุบนทางด่วน การทางพิเศษ
1193 : ตำรวจทางหลวง
1586 : กรมทางหลวง
1586 กด 7 : มอเตอร์เวย์สาย 7 และ 9
1146 : กรมทางหลวงชนบท
แจ้งเหตุฉุกเฉิน
191 : แจ้งตำรวจ เหตุฉุกเฉิน เหตุร้าย
199 : ไฟไหม้ ค้นคนหาย สัตว์มีพิษ
1192 : รถหาย ศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์
เจ็บป่วยฉุกเฉิน
1669 : เจ็บป่วยฉุกเฉิน ทั่วประเทศ
1646 : หน่วยแพทย์ฉุกเฉิน กรุงเทพฯ
1554 : หน่วยกู้ชีพ วชิรพยาบาล
ขอขอบคุณภาพจาก : safedrivedlt
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ:
Facebook : สอนขับรถพร้อมสอบใบขับขี่ที่ ไอดี ไดร์ฟเวอร์
Line : @iddrives (มี@ข้างหน้า)
โทรศัพท์ : 098-2610126 หรือ 0934083377
อีเมล : contact@iddrives.co.th
170
12 มิ.ย. 2568, 05:03
ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูร้อนอย่างเต็มตัว อุณหภูมิพุ่งสูงขึ้นทุกวัน โดยเฉพาะช่วงกลางวัน การขับขี่มอเตอร์ไซค์จึงกลายเป็นความท้าทายไม่น้อย ทั้งจากสภาพอากาศที่แผดเผา และความเสี่ยงด้านสุขภาพ เช่น ฮีทสโตรก (Heat Stroke) ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้หากขับขี่ในระยะไกลโดยไม่เตรียมตัวให้พร้อม
วันนี้ ไอดี ไดร์ฟ เรามี 5 เทคนิคขี่มอเตอร์ไซค์ให้ปลอดภัยในหน้าร้อน มาฝากกันครับ
ตรวจเช็กสภาพรถก่อนออกเดินทาง
ก่อนสตาร์ทรถ อย่าลืมตรวจสอบจุดสำคัญ เช่น:
• ลมยาง และสภาพยาง
• น้ำมันเครื่อง และน้ำมันเบรก
• ระบบเบรก และไฟส่องสว่าง
เพื่อให้แน่ใจว่ารถพร้อมใช้งาน และลดโอกาสเกิดปัญหาระหว่างทาง
สวมใส่อุปกรณ์ให้ครบและเหมาะกับสภาพอากาศ
อากาศร้อน ไม่ใช่ข้ออ้างในการใส่น้อย!
• หมวกกันน็อกเต็มใบ ป้องกันแดด ลม และฝุ่น
• เสื้อแจ็กเก็ต/เสื้อการ์ด ป้องกันร่างกายจากความร้อนและการกระแทก
• เสื้อ-กางเกงแบบระบายอากาศได้ดี ใส่สบาย ไม่อึดอัด
• ถุงมือ แว่นกันแดด และผ้าโม่ง ก็ช่วยป้องกันแดดและฝุ่นละอองได้อย่างดี
พกอุปกรณ์ฉุกเฉินไว้เสมอ
โดยเฉพาะเมื่อเดินทางไกล เช่น:
• ชุดปะยางฉุกเฉิน
• คีม ไขควง ประแจ
• ไฟฉาย หรือแบตสำรอง
แม้จะไม่ได้ใช้บ่อย แต่เมื่อถึงเวลาจำเป็น จะรู้เลยว่ามีไว้ “อุ่นใจกว่า”
ดื่มน้ำให้เพียงพอ
อุณหภูมิที่สูงทำให้ร่างกายเสียเหงื่อมาก
พักทุก 1-2 ชั่วโมง เพื่อดื่มน้ำ เติมความสดชื่น
หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และคาเฟอีนระหว่างขับขี่
รู้จักพัก เมื่อร่างกายไม่ไหว
ถ้าเริ่มรู้สึกเวียนหัว มึน หรืออ่อนเพลีย อย่าฝืนขับต่อ
หาที่ร่มจอดพักทันที และหากอาการไม่ดีขึ้น ควรโทรแจ้งเบอร์ฉุกเฉิน
เพราะ สุขภาพสำคัญที่สุด
สนใจเรียนเรียนขับรถพร้อมสอบใบขับขี่สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ:
Facebook : สอนขับรถพร้อมสอบใบขับขี่ที่ ไอดี ไดร์ฟเวอร์
Line : @iddrives (มี@ข้างหน้า)
โทรศัพท์ : 098-2610126 หรือ 0934083377
อีเมล : contact@iddrives.co.th
158
12 มิ.ย. 2568, 11:55
การขับรถขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นรถบรรทุก รถโดยสาร หรือรถตู้ขนาดใหญ่ บนเส้นทางที่ราบเรียบก็ต้องอาศัยความชำนาญและสมาธิเป็นพิเศษ ยิ่งเมื่อต้องเผชิญกับ #เส้นทางลาดชัน ทั้งขึ้นและลง ยิ่งต้องเพิ่มความระมัดระวังและเตรียมความพร้อมให้ถึงขีดสุด เพื่อความปลอดภัยของทั้งตัวเรา ผู้โดยสาร และเพื่อนร่วมทาง
หลายคนอาจกังวลเมื่อต้องขับรถใหญ่บนเขา แต่ถ้าเราเตรียมตัวมาดี รู้จักรถ และมีสติในการขับขี่ ทุกเส้นทางลาดชันก็ไม่ใช่เรื่องยากเกินความสามารถแน่นอน มาดูกันว่าต้องเตรียมอะไรบ้าง และมีเทคนิคการขับขี่อย่างไรให้ ขึ้นก็ไหว ลงก็รอด!
เตรียมความพร้อม...หัวใจสำคัญของการเดินทางปลอดภัย
ก่อนออกเดินทางทุกครั้ง โดยเฉพาะเมื่อรู้ว่าต้องเจอกับเส้นทางลาดชัน การเตรียมความพร้อมคือสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม:
เตรียมร่างกาย: พักผ่อนให้เพียงพอ นอนหลับอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายและจิตใจพร้อมสำหรับการขับขี่ที่ต้องใช้สมาธิสูง
ศึกษาเส้นทาง: ทำความเข้าใจเส้นทางที่จะไปล่วงหน้า ดูแผนที่ หรือสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะของถนน ทางโค้ง ทางลาดชัน และสะพาน เพื่อให้สามารถวางแผนการขับขี่ได้อย่างเหมาะสม
รู้สมรรถนะรถ: ทำความเข้าใจเกี่ยวกับกำลังเครื่องยนต์ ระบบเบรก และการทำงานของเกียร์ในรถที่เราขับขี่ รวมถึงตรวจสอบความพร้อมของรถให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ เช่น ระดับน้ำมันเครื่อง น้ำมันเบรก ลมยาง และระบบไฟส่องสว่าง
รู้ขีดความสามารถของรถ: ประเมินน้ำหนักบรรทุกของรถให้เหมาะสมกับกำลังเครื่องยนต์ ไม่บรรทุกเกินพิกัดที่กฎหมายกำหนด
รู้การใช้เกียร์และรอบเครื่องยนต์: ทำความเข้าใจหลักการทำงานของเกียร์แต่ละตำแหน่ง และช่วงรอบเครื่องยนต์ที่ให้กำลังสูงสุด เพื่อให้สามารถเลือกใช้เกียร์ได้อย่างเหมาะสมกับสภาพเส้นทาง
เทคนิคการขับรถขึ้น-ลงทางลาดชัน...มั่นใจทุกการควบคุม
เมื่อเข้าสู่เส้นทางลาดชัน สิ่งสำคัญคือการประเมินสถานการณ์และใช้เทคนิคการขับขี่ที่ถูกต้อง:
ประเมินความลาดชัน ลักษณะถนน และสังเกตป้ายเตือน: ก่อนถึงทางลาดชัน ให้สังเกตป้ายเตือนต่างๆ ที่บอกถึงความชันของเนิน ระยะทาง และลักษณะโค้ง เพื่อเตรียมพร้อมในการควบคุมรถ
ใช้เกียร์ต่ำขณะขึ้น-ลงทางลาดชัน: การใช้เกียร์ต่ำจะช่วยให้เครื่องยนต์มีกำลังมากขึ้นในการขับเคลื่อนขึ้นเนิน และช่วยหน่วงความเร็วของรถขณะลงเนิน ทำให้ควบคุมรถได้ง่ายและปลอดภัยยิ่งขึ้น
ขึ้นทางลาดชัน...ส่งกำลังอย่างเหมาะสม ไม่เร่งจนเกินไป
การขับรถขึ้นทางลาดชันต้องอาศัยการส่งกำลังของเครื่องยนต์อย่างต่อเนื่องและเหมาะสม:
ใช้เกียร์ให้เหมาะสมตามรอบเครื่องยนต์: เลือกใช้เกียร์ที่เหมาะสมกับความชันของเนินและรักษารอบเครื่องยนต์ให้อยู่ในช่วงที่ให้กำลังสูงสุด (โดยทั่วไปจะอยู่ในช่วงกลางของมาตรวัดรอบเครื่องยนต์) และระวังอย่าให้รอบเครื่องยนต์สูงเกินไปจนเข้าสู่ เขตสีแดง (RED ZONE) ซึ่งอาจทำให้เครื่องยนต์เสียหายได้
อย่าเร่งรอบสูงเกินไปเป็นเวลานาน: การเร่งเครื่องยนต์ด้วยรอบสูงเป็นเวลานานจะทำให้เครื่องยนต์ทำงานหนักและเกิดความร้อนสูง จะทำให้เครื่องยนต์เกิดความร้อนสูง (Overheat) ควรควบคุมคันเร่งอย่างนุ่มนวลและสม่ำเสมอ
หากรถเริ่มมีกำลังไม่พอ ให้ลดระดับเกียร์ให้ต่ำลง : เมื่อรู้สึกว่ารถเริ่มไม่มีกำลัง หรือรอบเครื่องยนต์ตกลงมาก ให้ลดระดับเกียร์ลงอย่างนุ่มนวล โดยต้องสอดคล้องกับสภาพความชัน และรักษาระดับรอบเครื่องยนต์ให้อยู่ในช่วงที่มีกำลังสูงสุด
ลงทางลาดชัน...ควบคุมความเร็วด้วยเกียร์และเบรกอย่างมีสติ
การขับรถลงทางลาดชันเป็นสิ่งที่ต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมาก เนื่องจากแรงโน้มถ่วงจะดึงรถให้มีความเร็วเพิ่มขึ้น:
ใช้ความเร็วต่ำ และเกียร์ที่เหมาะสม: ชะลอความเร็วก่อนเข้าสู่ทางลาดชัน และเลือกใช้เกียร์ต่ำที่เหมาะสมกับความชัน เพื่อช่วยหน่วงความเร็วของรถ เกียร์ที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับรอบเครื่องยนต์ #ระวัง อย่าให้รอบเครื่องยนต์เข้าเขตสีแดง(Red Zone) โดยเด็ดขาด การใช้เกียร์ต่ำจะช่วยลดภาระของระบบเบรกได้มาก
ควรใช้เบรกเสริม เช่น เบรกไอเสีย: รถขนาดใหญ่มักมีระบบเบรกเสริม เช่น เบรกไอเสีย (Exhaust Brake) หรือเบรกเครื่องยนต์ (Engine Brake) ซึ่งควรนำมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการชะลอและควบคุมรถ รวมถึงลดภาระการใช้เบรกเท้า
ไม่ควรใช้เบรกเท้าตลอดเวลา หรือเบรกถี่ๆ : การเหยียบเบรกเท้าติดต่อกันเป็นเวลานาน หรือเบรกถี่ๆ จะทำให้ #ผ้าเบรกไหม้ เนื่องจากความร้อนสะสม และอาจทำให้ ลมหมดถัง จนไม่สามารถควบคุมระบบเบรกได้ ควรใช้การเบรกเป็นจังหวะสั้นๆ สลับกับการปล่อยเบรก เพื่อระบายความร้อน
การขับรถขนาดใหญ่ในเส้นทางลาดชันอย่างปลอดภัยนั้น ขึ้นอยู่กับการเตรียมความพร้อมของทั้งรถและคนขับ การศึกษาเส้นทาง การทำความเข้าใจสมรรถนะของรถ และการใช้เทคนิคการขับขี่ที่ถูกต้อง หากเราใส่ใจในทุกรายละเอียดเหล่านี้ การขับรถขึ้นลงเขา ก็จะเป็นเรื่องที่ควบคุมได้ และนำพาเราไปถึงจุดหมายได้อย่างปลอดภัยอย่างแน่นอนค่ะ
สนใจเรียนเรียนขับรถพร้อมสอบใบขับขี่สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ:
Facebook : สอนขับรถพร้อมสอบใบขับขี่ที่ ไอดี ไดร์ฟเวอร์
Line : @iddrives (มี@ข้างหน้า)
โทรศัพท์ : 098-2610126 หรือ 0934083377
อีเมล : contact@iddrives.co.th
208
12 มิ.ย. 2568, 16:38
ขับขี่ปลอดภัย มั่นใจทุกเส้นทาง: 7 ข้อควรรู้สำหรับผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์
การขับขี่รถจักรยานยนต์เป็นวิธีเดินทางที่สะดวกและคล่องตัว แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่ต้องระมัดระวัง วันนี้เราไอดีไดร์ฟเวอร์จะพาทุกท่านไปเรียนรู้หลักการขับขี่ เพื่อให้ทุกการเดินทางปลอดภัยและมั่นใจได้ในทุกเส้นทาง นี่คือ 7 ข้อควรรู้สำหรับผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์ค่ะ
ตรวจสอบความพร้อมของรถ:
ก่อนออกเดินทางทุกครั้ง ควรตรวจสอบสภาพรถให้พร้อมใช้งาน โดยเฉพาะระบบเบรก ระบบไฟส่องสว่าง สภาพยาง และอุปกรณ์อื่นๆ
หากพบชิ้นส่วนที่ชำรุดหรือน่าสงสัย ควรรีบนำไปซ่อมแซมหรือเปลี่ยนทันที
สวมหมวกกันน็อกทุกครั้ง:
ทั้งผู้ขับขี่และผู้ซ้อนท้ายต้องสวมหมวกกันน็อกที่ได้มาตรฐาน และปรับสายรัดคางให้กระชับพอดี
การสวมหมวกกันน็อกช่วยป้องกันศีรษะจากการกระแทก ลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บรุนแรงเมื่อเกิดอุบัติเหตุ
มีสติและไม่ประมาท:
ผู้ขับขี่ต้องมีสติและสมาธิในการขับขี่ตลอดเวลา ไม่ประมาทหรือประเมินสถานการณ์ผิดพลาด
ควรคาดการณ์อุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น และเตรียมพร้อมที่จะควบคุมรถได้อย่างถูกต้อง
ใช้ความเร็วที่เหมาะสม:
ขับขี่ด้วยความเร็วที่เหมาะสมกับสภาพถนนและสภาพแวดล้อม
การใช้ความเร็วที่เหมาะสมช่วยให้ควบคุมรถได้ง่ายขึ้น และสามารถเบรกหรือหลบหลีกสิ่งกีดขวางได้อย่างปลอดภัย
ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด:
ไม่ขับขี่ขณะมึนเมา และปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด เช่น ไม่ขับรถย้อนศร ไม่ขับรถบนทางเท้า
ระมัดระวังการแทรกระหว่างรถยนต์ในช่องทางแคบๆ เพราะอาจเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย
หลีกเลี่ยงรถบรรทุกและรถขนาดใหญ่:
ไม่ขับขี่เข้าใกล้รถบรรทุกหรือรถขนาดใหญ่ เนื่องจากมีจุดบอดที่ผู้ขับขี่รถขนาดใหญ่มองไม่เห็นรถจักรยานยนต์
รักษาระยะห่างจากรถขนาดใหญ่ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น
ไม่ดัดแปลงสภาพรถ:
ไม่ดัดแปลงสภาพรถที่อาจส่งผลต่อความปลอดภัย เช่น ล้อ ยาง กระจกมองข้าง ท่อไอเสีย
อุปกรณ์ต่างๆ ของรถได้รับการออกแบบและทดสอบมาแล้ว เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน
ข้อควรจำ:
การขับขี่รถจักรยานยนต์อย่างปลอดภัยต้องอาศัยความระมัดระวังและมีสติอยู่เสมอ
การปฏิบัติตามกฎจราจรและคำแนะนำด้านความปลอดภัยจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุได้
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ทุกท่านนะคะ
สนใจเรียนเรียนขับรถพร้อมสอบใบขับขี่สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ:
Facebook : สอนขับรถพร้อมสอบใบขับขี่ที่ ไอดี ไดร์ฟเวอร์
Line : @iddrives (มี@ข้างหน้า)
โทรศัพท์ : 098-2610126 หรือ 0934083377
อีเมล : contact@iddrives.co.th
267
12 มิ.ย. 2568, 13:28
การขับรถในสภาพอากาศร้อนอบอ้าวของประเทศไทยนั้นเป็นสิ่งที่ท้าทายอย่างยิ่ง อุณหภูมิที่สูงไม่เพียงแต่ทำให้ภายในรถร้อนระอุจนแทบจะนั่งไม่ได้ แต่ยังส่งผลเสียต่อสุขภาพของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร รวมถึงประสิทธิภาพการทำงานของรถยนต์ด้วย ในบทความนี้ เราจะมาเผยเคล็ดลับที่ทรงประสิทธิภาพในการลดความร้อนในรถของคุณ เพื่อให้คุณสามารถขับขี่ได้อย่างเย็นสบายและปลอดภัย แม้ในวันที่อากาศร้อนจัด วันนี้ทาง ไอดีไดรฟ์ จำกัด มาแนะนำ
เคล็ดลับที่มีประสิทธิภาพในการลดความร้อนในรถของคุณขณะขับรถในสภาพอากาศร้อน : รักษาความเย็นและความสะดวกสบายบนท้องถนน การขับรถในสภาพอากาศร้อน เช่น ในกรุงเทพฯ สามารถนําเสนอความท้าทายที่ไม่เหมือนใครโดยเฉพาะอย่างย่ิงเมื่อต้องทําให้รถของคุณเย็นและสบายอยู่เสมอ ความร้อนที่ร้อนอบอ้าวไม่เพียงสร้างประสบการณ์การขับขี่ท่ีไม่พึงประสงค์เท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อประสิทธิภาพของรถของคุณอีกด้วย ในบทความนี้เราจะมาดูเคล็ดลับที่ใช้ได้จริงในการลดความร้อนในรถยนต์ขณะขับขี่ เพื่อให้การเดินทางสนุกและสะดวกสบายย่ิงขึ้น แม้ในสภาพอากาศที่ร้อนที่สุด
ใช้ม่านบังแดดและฟิล์มกรองแสง
วิธีหน่ึงท่ีได้ผลในการลดความร้อนภายในรถของคุณ คือการกันรังสีจากดวงอาทิตย์ซึ่งสามารถเพิ่มอุณหภูมิภายในรถได้อย่างมาก ท่ีบังแดดซึ่งมีให้เลือกหลายสไตล์และหลายขนาดสามารถติดไว้บนกระจกหน้ารถ กระจกหลัง และกระจกข้างเมื่อจอดรถ เฉดสี เหล่านี้ช่วยป้องกันแสงแดดเพิ่มอุณหภูมิภายในรถได้อย่างมาก และลดการสะสมความร้อน ทําให้รถเย็นลงได้ง่ายขึ้นเมื่อคุณเร่ิมขับรถ ฟิล์มกรองแสงยังสามารถเป็นวิธีแก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพในการลดความร้อน เนื่องจากมันบดบังแสงแดดจํานวนมากในขณะที่ยังคงมองเห็นได้ เมื่อพิจารณาฟิล์มกรองแสง อย่าลืมตรวจสอบข้อบังคับท้องถิ่นและเลือกฟิล์มกรองแสงท่ีสอดคล้องกับข้อกําหนดทางกฎหมายในพื้นท่ีของคุณ
ระบายอากาศในรถของคุณก่อนขับรถ
ก่อนเข้าไปในรถของคุณในวันที่อากาศร้อนอบอ้าว ควรเปิดประตูและหน้าต่างสักสองสามนาทีเพื่อให้อากาศร้อนระบายออก ขั้นตอนง่ายๆนี้สามารถช่วยลดอุณหภูมิภายในห้องโดยสารและทําให้ระบบปรับอากาศของคุณเย็นลงภายในรถได้ง่ายขึ้นเมื่อคุณเร่ิมขับรถ ถ้าเป็นไปได้พยายามจอดรถของคุณในที่ร่มหรือใช้ม่านบังแดดเพื่อลดความร้อนสะสมในขณะที่รถของคุณจอดอยู่
ใช้ระบบปรับอากาศของคุณอย่างมีประสิทธิภาพ
การใช้ระบบปรับอากาศอย่างมีประสิทธิภาพเป็นส่ิงสําคัญในการรักษาอุณหภูมิท่ีสบายในรถยนต์ของคุณขณะขับรถในสภาพอากาศร้อน เร่ิมด้วยการตั้งค่าเครื่องปรับอากาศของคุณให้มีอุณหภูมิต่ำสุดและความเร็วพัดลมสูงสุด เพื่อให้อากาศเย็นไหลเวียนอย่างรวดเร็วทั่วทั้งห้องโดยสาร เมื่ออุณหภูมิภายในรถลดลงถึงระดับที่สบายแล้ว ให้ปรับการตั้งค่าอุณหภูมิและพัดลมตามนั้น เพื่อรักษาสภาพอากาศให้คงท่ี นอกจากนี้ตรวจสอบให้แน่ใจว่าระบบปรับอากาศของคุณได้รับการบํารุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้มั่นใจได้ถึงประสิทธิภาพสูงสุด ระบบที่ได้รับการบํารุงรักษาอย่างดีไม่เพียงแต่จะทําให้รถของคุณเย็นลงอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังกินเชื้อเพลิงน้อยลงอีกด้วย ช่วยให้คุณประหยัดเงินในระยะยาว
ใช้ระบบระบายอากาศพลังงานแสงอาทิตย์
ระบบระบายอากาศพลังงานแสงอาทิตย์สามารถเป็นทางออกที่ยอดเยี่ยมในการลดความร้อนภายในรถของคุณในขณะขับขี่ อุปกรณ์เหล่านี้ใช้พลังงานแสงอาทิตย์เพื่อจ่ายไฟให้กับพัดลมขนาดเล็ก ซึ่งช่วยหมุนเวียนอากาศและกําจัดอากาศร้อนออกจากรถ ระบบระบายอากาศพลังงานแสงอาทิตย์สามารถติดตั้งบนหน้าต่างหรือแผงหน้าปัดรถของคุณ ทําให้อากาศบริสุทธิ์ไหลเวียนอย่างต่อเนื่องและช่วยรักษาอุณหภูมิให้สบายแม้ในวันที่อากาศร้อนที่สุด
เลือกหุ้มเบาะนั่งและอุปกรณ์ตกแต่งภายในสีอ่อน
ผ้าหุ้มเบาะนั่งและอุปกรณ์ตกแต่งภายในสีอ่อนช่วยลดการดูดซับความร้อน ทําให้รถของคุณเย็นและสบายขึ้น วัสดุสีเข้มมักจะดูดซับความร้อนจากดวงอาทิตย์ได้มากกว่า ซึ่งทําให้ภายในรถของคุณร้อนจนทนไม่ได้ด้วยการเลือกผ้าหุ้มเบาะนั่งและอุปกรณ์เสริมสีอ่อน คุณสามารถลดการดูดซับความร้อนและสร้างสภาพแวดล้อมการขับขี่ท่ีน่าพึงพอใจย่ิงขึ้น
ดื่มน้ำให้เพียงพอและแต่งกายให้เหมาะสม
แม้ว่าจะไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับอุณหภูมิภายในรถของคุณ แต่การดื่มน้ำให้เพียงพอและการแต่งกายให้เหมาะสมสําหรับสภาพอากาศร้อนสามารถสร้างความแตกต่างอย่างมีนัยสําคัญในความสะดวกสบายโดยรวมของคุณในขณะขับขี่ อย่าลืมดื่มน้ำมากๆ และเลือกเสื้อผ้าที่มีน้ำหนักเบาและระบายอากาศได้เพื่อช่วยควบคุมอุณหภูมิของร่างกายและทําให้เย็นในระหว่างการเดินทาง
โดยสรุปแล้ว การขับรถในสภาพอากาศร้อนอย่างกรุงเทพฯ อาจเป็นเรื่องที่ท้าทาย แต่ด้วยการใช้เคล็ดลับที่เป็นประโยชน์เหล่านี้เพื่อลดความร้อนภายในรถของคุณ คุณจะเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การขับขี่ท่ีสบายและน่ารื่นรมย์ย่ิงขึ้น ด้วยการลงทุนในม่านบังแดดและฟิล์มกรองแสง, ระบายอากาศในรถยนต์ของคุณก่อนขับขี่, ใช้ระบบปรับอากาศอย่างมีประสิทธิภาพ, ใช้ระบบระบายอากาศที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์, เลือกใช้ผ้าคลุมเบาะและอุปกรณ์ตกแต่งภายในสีอ่อน, รักษาความชุ่มชื้นและแต่งกายให้เหมาะสม คุณจะสามารถต่อสู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ความร้อนที่ร้อนระอุและรักษาสภาพแวดล้อมที่เย็นสบายภายในรถของคุณ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : toyotabuzz
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ:
Facebook : สอนขับรถพร้อมสอบใบขับขี่ที่ ไอดี ไดร์ฟเวอร์
Line : @iddrives (มี@ข้างหน้า)
โทรศัพท์ : 098-2610126 หรือ 0934083377
อีเมล : contact@iddrives.co.th
198
12 มิ.ย. 2568, 03:15