ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูร้อนอย่างเต็มตัว อุณหภูมิพุ่งสูงขึ้นทุกวัน โดยเฉพาะช่วงกลางวัน การขับขี่มอเตอร์ไซค์จึงกลายเป็นความท้าทายไม่น้อย ทั้งจากสภาพอากาศที่แผดเผา และความเสี่ยงด้านสุขภาพ เช่น ฮีทสโตรก (Heat Stroke) ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้หากขับขี่ในระยะไกลโดยไม่เตรียมตัวให้พร้อม วันนี้ ไอดี ไดร์ฟ เรามี 5 เทคนิคขี่มอเตอร์ไซค์ให้ปลอดภัยในหน้าร้อน มาฝากกันครับ ตรวจเช็กสภาพรถก่อนออกเดินทาง ก่อนสตาร์ทรถ อย่าลืมตรวจสอบจุดสำคัญ เช่น: • ลมยาง และสภาพยาง • น้ำมันเครื่อง และน้ำมันเบรก • ระบบเบรก และไฟส่องสว่าง เพื่อให้แน่ใจว่ารถพร้อมใช้งาน และลดโอกาสเกิดปัญหาระหว่างทาง สวมใส่อุปกรณ์ให้ครบและเหมาะกับสภาพอากาศ อากาศร้อน ไม่ใช่ข้ออ้างในการใส่น้อย! • หมวกกันน็อกเต็มใบ ป้องกันแดด ลม และฝุ่น • เสื้อแจ็กเก็ต/เสื้อการ์ด ป้องกันร่างกายจากความร้อนและการกระแทก • เสื้อ-กางเกงแบบระบายอากาศได้ดี ใส่สบาย ไม่อึดอัด • ถุงมือ แว่นกันแดด และผ้าโม่ง ก็ช่วยป้องกันแดดและฝุ่นละอองได้อย่างดี พกอุปกรณ์ฉุกเฉินไว้เสมอ โดยเฉพาะเมื่อเดินทางไกล เช่น: • ชุดปะยางฉุกเฉิน • คีม ไขควง ประแจ • ไฟฉาย หรือแบตสำรอง แม้จะไม่ได้ใช้บ่อย แต่เมื่อถึงเวลาจำเป็น จะรู้เลยว่ามีไว้ “อุ่นใจกว่า” ดื่มน้ำให้เพียงพอ อุณหภูมิที่สูงทำให้ร่างกายเสียเหงื่อมาก พักทุก 1-2 ชั่วโมง เพื่อดื่มน้ำ เติมความสดชื่น หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และคาเฟอีนระหว่างขับขี่ รู้จักพัก เมื่อร่างกายไม่ไหว ถ้าเริ่มรู้สึกเวียนหัว มึน หรืออ่อนเพลีย อย่าฝืนขับต่อ หาที่ร่มจอดพักทันที และหากอาการไม่ดีขึ้น ควรโทรแจ้งเบอร์ฉุกเฉิน เพราะ สุขภาพสำคัญที่สุด สนใจเรียนเรียนขับรถพร้อมสอบใบขับขี่สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ: Facebook : สอนขับรถพร้อมสอบใบขับขี่ที่ ไอดี ไดร์ฟเวอร์ Line : @iddrives (มี@ข้างหน้า) โทรศัพท์ : 098-2610126 หรือ 0934083377 อีเมล : contact@iddrives.co.th
211 1 ส.ค. 2568, 15:38การขับรถขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นรถบรรทุก รถโดยสาร หรือรถตู้ขนาดใหญ่ บนเส้นทางที่ราบเรียบก็ต้องอาศัยความชำนาญและสมาธิเป็นพิเศษ ยิ่งเมื่อต้องเผชิญกับ #เส้นทางลาดชัน ทั้งขึ้นและลง ยิ่งต้องเพิ่มความระมัดระวังและเตรียมความพร้อมให้ถึงขีดสุด เพื่อความปลอดภัยของทั้งตัวเรา ผู้โดยสาร และเพื่อนร่วมทาง หลายคนอาจกังวลเมื่อต้องขับรถใหญ่บนเขา แต่ถ้าเราเตรียมตัวมาดี รู้จักรถ และมีสติในการขับขี่ ทุกเส้นทางลาดชันก็ไม่ใช่เรื่องยากเกินความสามารถแน่นอน มาดูกันว่าต้องเตรียมอะไรบ้าง และมีเทคนิคการขับขี่อย่างไรให้ ขึ้นก็ไหว ลงก็รอด! เตรียมความพร้อม...หัวใจสำคัญของการเดินทางปลอดภัย ก่อนออกเดินทางทุกครั้ง โดยเฉพาะเมื่อรู้ว่าต้องเจอกับเส้นทางลาดชัน การเตรียมความพร้อมคือสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม: เตรียมร่างกาย: พักผ่อนให้เพียงพอ นอนหลับอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายและจิตใจพร้อมสำหรับการขับขี่ที่ต้องใช้สมาธิสูง ศึกษาเส้นทาง: ทำความเข้าใจเส้นทางที่จะไปล่วงหน้า ดูแผนที่ หรือสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะของถนน ทางโค้ง ทางลาดชัน และสะพาน เพื่อให้สามารถวางแผนการขับขี่ได้อย่างเหมาะสม รู้สมรรถนะรถ: ทำความเข้าใจเกี่ยวกับกำลังเครื่องยนต์ ระบบเบรก และการทำงานของเกียร์ในรถที่เราขับขี่ รวมถึงตรวจสอบความพร้อมของรถให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ เช่น ระดับน้ำมันเครื่อง น้ำมันเบรก ลมยาง และระบบไฟส่องสว่าง รู้ขีดความสามารถของรถ: ประเมินน้ำหนักบรรทุกของรถให้เหมาะสมกับกำลังเครื่องยนต์ ไม่บรรทุกเกินพิกัดที่กฎหมายกำหนด รู้การใช้เกียร์และรอบเครื่องยนต์: ทำความเข้าใจหลักการทำงานของเกียร์แต่ละตำแหน่ง และช่วงรอบเครื่องยนต์ที่ให้กำลังสูงสุด เพื่อให้สามารถเลือกใช้เกียร์ได้อย่างเหมาะสมกับสภาพเส้นทาง เทคนิคการขับรถขึ้น-ลงทางลาดชัน...มั่นใจทุกการควบคุม เมื่อเข้าสู่เส้นทางลาดชัน สิ่งสำคัญคือการประเมินสถานการณ์และใช้เทคนิคการขับขี่ที่ถูกต้อง: ประเมินความลาดชัน ลักษณะถนน และสังเกตป้ายเตือน: ก่อนถึงทางลาดชัน ให้สังเกตป้ายเตือนต่างๆ ที่บอกถึงความชันของเนิน ระยะทาง และลักษณะโค้ง เพื่อเตรียมพร้อมในการควบคุมรถ ใช้เกียร์ต่ำขณะขึ้น-ลงทางลาดชัน: การใช้เกียร์ต่ำจะช่วยให้เครื่องยนต์มีกำลังมากขึ้นในการขับเคลื่อนขึ้นเนิน และช่วยหน่วงความเร็วของรถขณะลงเนิน ทำให้ควบคุมรถได้ง่ายและปลอดภัยยิ่งขึ้น ขึ้นทางลาดชัน...ส่งกำลังอย่างเหมาะสม ไม่เร่งจนเกินไป การขับรถขึ้นทางลาดชันต้องอาศัยการส่งกำลังของเครื่องยนต์อย่างต่อเนื่องและเหมาะสม: ใช้เกียร์ให้เหมาะสมตามรอบเครื่องยนต์: เลือกใช้เกียร์ที่เหมาะสมกับความชันของเนินและรักษารอบเครื่องยนต์ให้อยู่ในช่วงที่ให้กำลังสูงสุด (โดยทั่วไปจะอยู่ในช่วงกลางของมาตรวัดรอบเครื่องยนต์) และระวังอย่าให้รอบเครื่องยนต์สูงเกินไปจนเข้าสู่ เขตสีแดง (RED ZONE) ซึ่งอาจทำให้เครื่องยนต์เสียหายได้ อย่าเร่งรอบสูงเกินไปเป็นเวลานาน: การเร่งเครื่องยนต์ด้วยรอบสูงเป็นเวลานานจะทำให้เครื่องยนต์ทำงานหนักและเกิดความร้อนสูง จะทำให้เครื่องยนต์เกิดความร้อนสูง (Overheat) ควรควบคุมคันเร่งอย่างนุ่มนวลและสม่ำเสมอ หากรถเริ่มมีกำลังไม่พอ ให้ลดระดับเกียร์ให้ต่ำลง : เมื่อรู้สึกว่ารถเริ่มไม่มีกำลัง หรือรอบเครื่องยนต์ตกลงมาก ให้ลดระดับเกียร์ลงอย่างนุ่มนวล โดยต้องสอดคล้องกับสภาพความชัน และรักษาระดับรอบเครื่องยนต์ให้อยู่ในช่วงที่มีกำลังสูงสุด ลงทางลาดชัน...ควบคุมความเร็วด้วยเกียร์และเบรกอย่างมีสติ การขับรถลงทางลาดชันเป็นสิ่งที่ต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมาก เนื่องจากแรงโน้มถ่วงจะดึงรถให้มีความเร็วเพิ่มขึ้น: ใช้ความเร็วต่ำ และเกียร์ที่เหมาะสม: ชะลอความเร็วก่อนเข้าสู่ทางลาดชัน และเลือกใช้เกียร์ต่ำที่เหมาะสมกับความชัน เพื่อช่วยหน่วงความเร็วของรถ เกียร์ที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับรอบเครื่องยนต์ #ระวัง อย่าให้รอบเครื่องยนต์เข้าเขตสีแดง(Red Zone) โดยเด็ดขาด การใช้เกียร์ต่ำจะช่วยลดภาระของระบบเบรกได้มาก ควรใช้เบรกเสริม เช่น เบรกไอเสีย: รถขนาดใหญ่มักมีระบบเบรกเสริม เช่น เบรกไอเสีย (Exhaust Brake) หรือเบรกเครื่องยนต์ (Engine Brake) ซึ่งควรนำมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการชะลอและควบคุมรถ รวมถึงลดภาระการใช้เบรกเท้า ไม่ควรใช้เบรกเท้าตลอดเวลา หรือเบรกถี่ๆ : การเหยียบเบรกเท้าติดต่อกันเป็นเวลานาน หรือเบรกถี่ๆ จะทำให้ #ผ้าเบรกไหม้ เนื่องจากความร้อนสะสม และอาจทำให้ ลมหมดถัง จนไม่สามารถควบคุมระบบเบรกได้ ควรใช้การเบรกเป็นจังหวะสั้นๆ สลับกับการปล่อยเบรก เพื่อระบายความร้อน การขับรถขนาดใหญ่ในเส้นทางลาดชันอย่างปลอดภัยนั้น ขึ้นอยู่กับการเตรียมความพร้อมของทั้งรถและคนขับ การศึกษาเส้นทาง การทำความเข้าใจสมรรถนะของรถ และการใช้เทคนิคการขับขี่ที่ถูกต้อง หากเราใส่ใจในทุกรายละเอียดเหล่านี้ การขับรถขึ้นลงเขา ก็จะเป็นเรื่องที่ควบคุมได้ และนำพาเราไปถึงจุดหมายได้อย่างปลอดภัยอย่างแน่นอนค่ะ สนใจเรียนเรียนขับรถพร้อมสอบใบขับขี่สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ: Facebook : สอนขับรถพร้อมสอบใบขับขี่ที่ ไอดี ไดร์ฟเวอร์ Line : @iddrives (มี@ข้างหน้า) โทรศัพท์ : 098-2610126 หรือ 0934083377 อีเมล : contact@iddrives.co.th
257 1 ส.ค. 2568, 12:32ขับขี่ปลอดภัย มั่นใจทุกเส้นทาง: 7 ข้อควรรู้สำหรับผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์ การขับขี่รถจักรยานยนต์เป็นวิธีเดินทางที่สะดวกและคล่องตัว แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่ต้องระมัดระวัง วันนี้เราไอดีไดร์ฟเวอร์จะพาทุกท่านไปเรียนรู้หลักการขับขี่ เพื่อให้ทุกการเดินทางปลอดภัยและมั่นใจได้ในทุกเส้นทาง นี่คือ 7 ข้อควรรู้สำหรับผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์ค่ะ ตรวจสอบความพร้อมของรถ: ก่อนออกเดินทางทุกครั้ง ควรตรวจสอบสภาพรถให้พร้อมใช้งาน โดยเฉพาะระบบเบรก ระบบไฟส่องสว่าง สภาพยาง และอุปกรณ์อื่นๆ หากพบชิ้นส่วนที่ชำรุดหรือน่าสงสัย ควรรีบนำไปซ่อมแซมหรือเปลี่ยนทันที สวมหมวกกันน็อกทุกครั้ง: ทั้งผู้ขับขี่และผู้ซ้อนท้ายต้องสวมหมวกกันน็อกที่ได้มาตรฐาน และปรับสายรัดคางให้กระชับพอดี การสวมหมวกกันน็อกช่วยป้องกันศีรษะจากการกระแทก ลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บรุนแรงเมื่อเกิดอุบัติเหตุ มีสติและไม่ประมาท: ผู้ขับขี่ต้องมีสติและสมาธิในการขับขี่ตลอดเวลา ไม่ประมาทหรือประเมินสถานการณ์ผิดพลาด ควรคาดการณ์อุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น และเตรียมพร้อมที่จะควบคุมรถได้อย่างถูกต้อง ใช้ความเร็วที่เหมาะสม: ขับขี่ด้วยความเร็วที่เหมาะสมกับสภาพถนนและสภาพแวดล้อม การใช้ความเร็วที่เหมาะสมช่วยให้ควบคุมรถได้ง่ายขึ้น และสามารถเบรกหรือหลบหลีกสิ่งกีดขวางได้อย่างปลอดภัย ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด: ไม่ขับขี่ขณะมึนเมา และปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด เช่น ไม่ขับรถย้อนศร ไม่ขับรถบนทางเท้า ระมัดระวังการแทรกระหว่างรถยนต์ในช่องทางแคบๆ เพราะอาจเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย หลีกเลี่ยงรถบรรทุกและรถขนาดใหญ่: ไม่ขับขี่เข้าใกล้รถบรรทุกหรือรถขนาดใหญ่ เนื่องจากมีจุดบอดที่ผู้ขับขี่รถขนาดใหญ่มองไม่เห็นรถจักรยานยนต์ รักษาระยะห่างจากรถขนาดใหญ่ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น ไม่ดัดแปลงสภาพรถ: ไม่ดัดแปลงสภาพรถที่อาจส่งผลต่อความปลอดภัย เช่น ล้อ ยาง กระจกมองข้าง ท่อไอเสีย อุปกรณ์ต่างๆ ของรถได้รับการออกแบบและทดสอบมาแล้ว เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน ข้อควรจำ: การขับขี่รถจักรยานยนต์อย่างปลอดภัยต้องอาศัยความระมัดระวังและมีสติอยู่เสมอ การปฏิบัติตามกฎจราจรและคำแนะนำด้านความปลอดภัยจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุได้ หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ทุกท่านนะคะ สนใจเรียนเรียนขับรถพร้อมสอบใบขับขี่สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ: Facebook : สอนขับรถพร้อมสอบใบขับขี่ที่ ไอดี ไดร์ฟเวอร์ Line : @iddrives (มี@ข้างหน้า) โทรศัพท์ : 098-2610126 หรือ 0934083377 อีเมล : contact@iddrives.co.th
369 1 ส.ค. 2568, 12:30การขับรถในสภาพอากาศร้อนอบอ้าวของประเทศไทยนั้นเป็นสิ่งที่ท้าทายอย่างยิ่ง อุณหภูมิที่สูงไม่เพียงแต่ทำให้ภายในรถร้อนระอุจนแทบจะนั่งไม่ได้ แต่ยังส่งผลเสียต่อสุขภาพของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร รวมถึงประสิทธิภาพการทำงานของรถยนต์ด้วย ในบทความนี้ เราจะมาเผยเคล็ดลับที่ทรงประสิทธิภาพในการลดความร้อนในรถของคุณ เพื่อให้คุณสามารถขับขี่ได้อย่างเย็นสบายและปลอดภัย แม้ในวันที่อากาศร้อนจัด วันนี้ทาง ไอดีไดรฟ์ จำกัด มาแนะนำ เคล็ดลับที่มีประสิทธิภาพในการลดความร้อนในรถของคุณขณะขับรถในสภาพอากาศร้อน : รักษาความเย็นและความสะดวกสบายบนท้องถนน การขับรถในสภาพอากาศร้อน เช่น ในกรุงเทพฯ สามารถนําเสนอความท้าทายที่ไม่เหมือนใครโดยเฉพาะอย่างย่ิงเมื่อต้องทําให้รถของคุณเย็นและสบายอยู่เสมอ ความร้อนที่ร้อนอบอ้าวไม่เพียงสร้างประสบการณ์การขับขี่ท่ีไม่พึงประสงค์เท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อประสิทธิภาพของรถของคุณอีกด้วย ในบทความนี้เราจะมาดูเคล็ดลับที่ใช้ได้จริงในการลดความร้อนในรถยนต์ขณะขับขี่ เพื่อให้การเดินทางสนุกและสะดวกสบายย่ิงขึ้น แม้ในสภาพอากาศที่ร้อนที่สุด ใช้ม่านบังแดดและฟิล์มกรองแสง วิธีหน่ึงท่ีได้ผลในการลดความร้อนภายในรถของคุณ คือการกันรังสีจากดวงอาทิตย์ซึ่งสามารถเพิ่มอุณหภูมิภายในรถได้อย่างมาก ท่ีบังแดดซึ่งมีให้เลือกหลายสไตล์และหลายขนาดสามารถติดไว้บนกระจกหน้ารถ กระจกหลัง และกระจกข้างเมื่อจอดรถ เฉดสี เหล่านี้ช่วยป้องกันแสงแดดเพิ่มอุณหภูมิภายในรถได้อย่างมาก และลดการสะสมความร้อน ทําให้รถเย็นลงได้ง่ายขึ้นเมื่อคุณเร่ิมขับรถ ฟิล์มกรองแสงยังสามารถเป็นวิธีแก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพในการลดความร้อน เนื่องจากมันบดบังแสงแดดจํานวนมากในขณะที่ยังคงมองเห็นได้ เมื่อพิจารณาฟิล์มกรองแสง อย่าลืมตรวจสอบข้อบังคับท้องถิ่นและเลือกฟิล์มกรองแสงท่ีสอดคล้องกับข้อกําหนดทางกฎหมายในพื้นท่ีของคุณ ระบายอากาศในรถของคุณก่อนขับรถ ก่อนเข้าไปในรถของคุณในวันที่อากาศร้อนอบอ้าว ควรเปิดประตูและหน้าต่างสักสองสามนาทีเพื่อให้อากาศร้อนระบายออก ขั้นตอนง่ายๆนี้สามารถช่วยลดอุณหภูมิภายในห้องโดยสารและทําให้ระบบปรับอากาศของคุณเย็นลงภายในรถได้ง่ายขึ้นเมื่อคุณเร่ิมขับรถ ถ้าเป็นไปได้พยายามจอดรถของคุณในที่ร่มหรือใช้ม่านบังแดดเพื่อลดความร้อนสะสมในขณะที่รถของคุณจอดอยู่ ใช้ระบบปรับอากาศของคุณอย่างมีประสิทธิภาพ การใช้ระบบปรับอากาศอย่างมีประสิทธิภาพเป็นส่ิงสําคัญในการรักษาอุณหภูมิท่ีสบายในรถยนต์ของคุณขณะขับรถในสภาพอากาศร้อน เร่ิมด้วยการตั้งค่าเครื่องปรับอากาศของคุณให้มีอุณหภูมิต่ำสุดและความเร็วพัดลมสูงสุด เพื่อให้อากาศเย็นไหลเวียนอย่างรวดเร็วทั่วทั้งห้องโดยสาร เมื่ออุณหภูมิภายในรถลดลงถึงระดับที่สบายแล้ว ให้ปรับการตั้งค่าอุณหภูมิและพัดลมตามนั้น เพื่อรักษาสภาพอากาศให้คงท่ี นอกจากนี้ตรวจสอบให้แน่ใจว่าระบบปรับอากาศของคุณได้รับการบํารุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้มั่นใจได้ถึงประสิทธิภาพสูงสุด ระบบที่ได้รับการบํารุงรักษาอย่างดีไม่เพียงแต่จะทําให้รถของคุณเย็นลงอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังกินเชื้อเพลิงน้อยลงอีกด้วย ช่วยให้คุณประหยัดเงินในระยะยาว ใช้ระบบระบายอากาศพลังงานแสงอาทิตย์ ระบบระบายอากาศพลังงานแสงอาทิตย์สามารถเป็นทางออกที่ยอดเยี่ยมในการลดความร้อนภายในรถของคุณในขณะขับขี่ อุปกรณ์เหล่านี้ใช้พลังงานแสงอาทิตย์เพื่อจ่ายไฟให้กับพัดลมขนาดเล็ก ซึ่งช่วยหมุนเวียนอากาศและกําจัดอากาศร้อนออกจากรถ ระบบระบายอากาศพลังงานแสงอาทิตย์สามารถติดตั้งบนหน้าต่างหรือแผงหน้าปัดรถของคุณ ทําให้อากาศบริสุทธิ์ไหลเวียนอย่างต่อเนื่องและช่วยรักษาอุณหภูมิให้สบายแม้ในวันที่อากาศร้อนที่สุด เลือกหุ้มเบาะนั่งและอุปกรณ์ตกแต่งภายในสีอ่อน ผ้าหุ้มเบาะนั่งและอุปกรณ์ตกแต่งภายในสีอ่อนช่วยลดการดูดซับความร้อน ทําให้รถของคุณเย็นและสบายขึ้น วัสดุสีเข้มมักจะดูดซับความร้อนจากดวงอาทิตย์ได้มากกว่า ซึ่งทําให้ภายในรถของคุณร้อนจนทนไม่ได้ด้วยการเลือกผ้าหุ้มเบาะนั่งและอุปกรณ์เสริมสีอ่อน คุณสามารถลดการดูดซับความร้อนและสร้างสภาพแวดล้อมการขับขี่ท่ีน่าพึงพอใจย่ิงขึ้น ดื่มน้ำให้เพียงพอและแต่งกายให้เหมาะสม แม้ว่าจะไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับอุณหภูมิภายในรถของคุณ แต่การดื่มน้ำให้เพียงพอและการแต่งกายให้เหมาะสมสําหรับสภาพอากาศร้อนสามารถสร้างความแตกต่างอย่างมีนัยสําคัญในความสะดวกสบายโดยรวมของคุณในขณะขับขี่ อย่าลืมดื่มน้ำมากๆ และเลือกเสื้อผ้าที่มีน้ำหนักเบาและระบายอากาศได้เพื่อช่วยควบคุมอุณหภูมิของร่างกายและทําให้เย็นในระหว่างการเดินทาง โดยสรุปแล้ว การขับรถในสภาพอากาศร้อนอย่างกรุงเทพฯ อาจเป็นเรื่องที่ท้าทาย แต่ด้วยการใช้เคล็ดลับที่เป็นประโยชน์เหล่านี้เพื่อลดความร้อนภายในรถของคุณ คุณจะเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การขับขี่ท่ีสบายและน่ารื่นรมย์ย่ิงขึ้น ด้วยการลงทุนในม่านบังแดดและฟิล์มกรองแสง, ระบายอากาศในรถยนต์ของคุณก่อนขับขี่, ใช้ระบบปรับอากาศอย่างมีประสิทธิภาพ, ใช้ระบบระบายอากาศที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์, เลือกใช้ผ้าคลุมเบาะและอุปกรณ์ตกแต่งภายในสีอ่อน, รักษาความชุ่มชื้นและแต่งกายให้เหมาะสม คุณจะสามารถต่อสู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ความร้อนที่ร้อนระอุและรักษาสภาพแวดล้อมที่เย็นสบายภายในรถของคุณ ขอขอบคุณข้อมูลจาก : toyotabuzz สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ: Facebook : สอนขับรถพร้อมสอบใบขับขี่ที่ ไอดี ไดร์ฟเวอร์ Line : @iddrives (มี@ข้างหน้า) โทรศัพท์ : 098-2610126 หรือ 0934083377 อีเมล : contact@iddrives.co.th
279 1 ส.ค. 2568, 12:18การเตรียมตัวสอบใบขับขี่เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณมั่นใจและพร้อมสำหรับการสอบทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ ในปี พ.ศ. 2568 นี้ มีการปรับปรุงเนื้อหาและแนวข้อสอบบางส่วน เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันและเพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนนมากยิ่งขึ้น การเตรียมตัวก่อนไปสอบใบขับขี่: ศึกษาข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อถือได้: คู่มืออบรมใบอนุญาตขับรถจากกรมการขนส่งทางบก (DLT) เว็บไซต์ DLT e-learning โรงเรียน ไอดีไดร์ฟเวอร์ โรงเรียนสอนขับรถ ที่กรมขนส่งทางบกรับรอง เรียนรู้ทักษะขับขี่อย่างปลอดภัย และการใช้รถใช้ถนนร่วมกับผู้อื่น ฝึกหัดขับรถกับครูผู้สอนที่ได้รับการรับรองจากกรมขนส่งทางบก อบรมภาคทฤษฎี ทดสอบภาคทฤษฎี และทดสอบขับรถ ที่โรงเรียนสอนขับรถ ไอดีไดร์ฟเวอร์ ได้ใบรับรองนำไปยื่นขอรับใบขับขี่ที่สำนักงานขนส่ง ตามมาตรฐานที่กรมรองรับ เรียนรู้กฎหมายและกฎจราจร: ทำความเข้าใจกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการขับรถ ป้ายจราจร และเครื่องหมายต่างๆ ฝึกทำข้อสอบ: ลองทำข้อสอบออนไลน์หรือจากหนังสือคู่มือ เพื่อให้คุ้นเคยกับรูปแบบและเนื้อหาของข้อสอบ ฝึกขับรถ: หากเป็นไปได้ ควรฝึกขับรถกับผู้ที่มีประสบการณ์ หรือเรียนกับโรงเรียนสอนขับรถที่ได้รับการรับรอง เตรียมเอกสารให้พร้อม: ตรวจสอบเอกสารที่ต้องใช้ในการสอบ เช่น บัตรประชาชน ใบรับรองแพทย์ และเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง พักผ่อนให้เพียงพอ: การพักผ่อนที่เพียงพอจะช่วยให้คุณมีสมาธิและพร้อมสำหรับการสอบ ข้อสอบภาคทฤษฎี: กฎหมายว่าด้วยรถยนต์ กฎหมายว่าด้วยทางหลวง เครื่องหมายจราจร มารยาทและจิตสำนึกในการขับรถ การคาดการณ์อุบัติเหตุ (Hazard Perception): ส่วนนี้ถูกเพิ่มเข้ามาใหม่ เพื่อทดสอบความสามารถในการมองหาและประเมินอันตรายที่อาจเกิดขึ้นบนท้องถนน ข้อสอบภาคปฏิบัติ: การควบคุมรถ การขับรถในสถานการณ์ต่างๆ การปฏิบัติตามกฎจราจร วันนี้เราจะมาแบ่งปัน แนวข้อสอบใบขับขี่ ปี พ.ศ. 2568 เพื่อเป็นแนวทางในการฝึกหัดทำข้อสอบ เตรียมตัวก่อนไปลงสนามจริงกันนะคะ ข้อสอบใบขับขี่หมวดที่ 1 - กฎหมายว่าด้วยรถยนต์ 1 ในขณะขับรถผู้ขับขี่ต้องมีอกสารใดใช้คู่กับใบอนุญาตขับรถ ก. บัตรประจำตัวประชาชน ข. สำเนาทะเบียนบ้าน ค. สำเนาภาพถ่ายใบคู่มือจดทะเบียนรถ ง. บัครประกันสังคม 2 ผู้ขับรถกระทำผิดตามกฎหมายจราจรทางบกและได้รับใบสั่งจากเจ้าพนักงานจราจรต้องไปติดต่อชำระค่าปรับภายในกี่ ก. 10 วัน ข. 7 วัน ค. 15 วัน ง. 30 วัน 3 เมื่อใบอนุญาคขับรถสูญหายหรือชำรุดต้องยื่นขอรับใบแทนต่อนายทะเบียนภายในกี่วัน ก. 20 วัน ข. 30 วัน ค. 15 วัน ง. 45 วัน 4 ผู้ขับรถไม่มีใบอนุญาตขับรถ มีความผิดอย่างไร ก. จำคุกไม่เกิน 1 ปี ข. จำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ค. ปรับไม่เกิน 2,000 บาท ง. ปรับไม่เกิน 5,000 บาท 5 ใบอนุญาตขับรถชนิดชั่วคราวมีอายุกี่ปี ก. 2 ปี ข. 1 ปี ค. 3 ปิ ง. 4 ปี 6 ผู้ขับรถใช้ใบอนุญาตขับรถที่สิ้นอายุมีความผิดอย่างไร ก. ปรับไม่เกินห้าพันบาท ข. จำคุกไม่เกินสามเดือน ค. ปรับไม่เกินสองพันบาท ง. จำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน 7 รถที่ไม่เสียภาษีประจำปีภายในกำหนดจะต้องเสียเงินเพิ่มเท่าใด ก. ร้อยละ 1 ต่อเดือน ข.ร้อยละ 1 ต่อปี ค.ร้อยละ 10 ค่อเดือน ง. ร้อยละ 20 ต่อปี 8 การโอนรถต้องแจ้งต่อนายทะเบียนภายในกี่วัน ก. 15 วัน ข. 45 วัน ค. 20 วัน ง. 30 วัน 9 การเปลี่ยนสีรถต้องแจ้งต่อนายทะเบียนภายในกี่วัน ก. 7 วัน ข. 10 วัน ค. 15 วัน ง. 20 วัน 10 การต่ออายุใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคล (5 ปี) สามารถต่อก่อนล่วงหน้าได้เท่าใด ก. 3 เดือน ข. 4 เดือน ค. 6 เดือน ง. 5 เดือน 11 รายนต์ที่มีอายุครบกี่ปีต้องนำไปตรวจสภาพรอก่อนเสียภาษีประจำปี ก. 5 ปี ข. 6 ปี ค. 3 ปี ง. 7 ปี 12 การย้ายรถต้องแจ้งต่อนายทะเบียนภายในกี่วัน ก. 30 วัน ข. 15 วัน ค. 25 วัน ง. 20 วัน 13 รถจักรยานยนต์ที่มีอายุครบกี่ปีต้องนำไปตรวจสภาพรถก่อนเสียภาษีประจำปี ก. 1 ปี ข. 3 ปี ค. 2 ปิ ง. 5 ปี 14 ตาม พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ.2522 "รถ" หมายความว่า ก. รถยนต์ รถจักรยานยนต์ รถพ่วง รถบดจนห รถแทรกตอร์ และรถอื่นที่กำหนดในกฎกระทรวง ข. รถยนต์ รถจักรยานยนตั รถพ่วง ค. รถยนต์ รถจักรยานยนต์ รถพ่วง รถบคถนน รถแทรกเตอร์ ง. รถยนต์ รถจักรยานยนตั รถพ่วง รถแทรกเคอร์ 15 ตาม พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ.2522 "รถยนต์" หมายความว่า ก.รถสาธารณะ รถยนตับริการ และรถยนต์ส่วนบุคคล รถแท็กซี่ ข. รถสารารณะ รถยนต์บริการ และ รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล ค. รถจักรยานยนต์สาธารณะ รถยนตับริการ และรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล ง. รถสาธารณะ รยนต์บริการ และรถยนต์ส่วนบุคคล 16 ตาม พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ.2522 "รถจักรยานยนค์" หมายความว่า ก. รถที่เดินรถกำลังเครื่องยนต์หรือกำลังไฟฟ้าและมีล้อไม่เกินสองล้อ ถ้ามีถ่วงข้างมีล้ออีกไม่เกินหนึ่งล้อ ข.รถที่เดินรถกำลังเครื่องยนตัหรือกำลังไฟฟ้าและมีล้อไม่เกินสองล้อ ค. รถที่เดินรถกำลังเครื่องยนต์มีล้อไม่เกินสองล้อ ง. รถที่เดินรถกำลังเครื่องยนหรือกำลังไฟฟ้และมีล้อเกินสองล้อ 17 ข้อใดไม่ใช่ "รถยนต์รับจ้างสาธารณะ" ก. รถแท็กชื่ ข. รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล ค. รถจักรยานยนต์รับจ้างสาธารณะ ง.รถสามล้อรับจ้างสาธารณะ 18 ตาม พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ.2522 "รถยนต์บริการ" หมายความว่า ก.รถยนต์ให้เช่าซึ่งบรรทุกคน โดยสารไม่เกินเจ็ดคน ข. รถยนต์บรรทุกคนโดยสาร ซึ่งบรรทุกคนโดยสารไม่เกินเจ็ดคน ค. รถยนด์บรรทุกคนโดยสารหรือให้เช่าซึ่งบรรทุกคนโดยสารไม่เกินเจ็ดคน ง.รถยนต์บรรทุกคนโดยสารหรือให้เช่าซึ่งบรรทุกคนโดยสารเกินเจ็ดคน 20 รถที่นำมาใช้บนถนนต้องมีลักษณะอย่างไร ก. รถที่ โคมไฟหน้าไม่ติด ข. รถที่มีเสียงคัง 90 เคซิเบล A ค. รถที่มีควันดำ 55 เปอร์เซ็นตั ง. รถที่จดทะเบียนและชำระภาษีเรียบร้อยแล้ว 21 รถที่สามารถทำมาจดทะเบียนต้องมีลักษณะอย่างใด ก. รถต้องมีอุปกรณ์ส่วนควบถูกต้องและผ่นการตรวจสภาพรถ ข. รถต้องมีอุปกรณ์ส่วนควบถูกต้อง ค. รถที่ซื้อจากศูนย์จำหน่ายรถทั่วไป ง.รถที่ผ่านการตรวจสภาพรถ จากสภานตรวจภาพรถเอกชน 22 รถต่อไปนี้ได้รับการยกเว้นไม่ต้องจดทะเบียน ก. รถของวัด ข. รถของมูลนิธิ ค. รถสำหรับเฉพาะพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ง. รถของผู้บัญชาการทหารสูงสุด 23 รถต่อไปนี้ได้รับการยกว้นไม่ต้องจดทะเบียน ก. รถของวัด ข.รถของกรมตำรวจที่จดทะเบียนและมีเครื่องหมายตามระเบียบที่อธิบดีกำหนด ค. รถของสภากาชาคไทย ง.รถของมูลนิธิเพื่อนพึ่งภายามยาก 24 รถต่อไปนี้ด้รับการยกเว้นไม่ต้องจดทะเบียน ก. รถของสำนักพระราชวังที่จดทะเบียนและมีเครื่องหมายตามระเบียบที่เลขาธิการพระราชวังกำหนด ข.รถสำหรับเฉพาะ พระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ค. รถของกรมตำรวจที่จดทะเบียนและมิเครื่องหมายตามระเบียบที่อธิบดีกำหนด ง. ทุกข้อถูกต้อง 25 รถต่อไปนี้ได้รับการยกว้นไม่ต้องจดทะเบียน ก. รถที่เจ้าของรถแจ้งการไม่ใช้รถ ข. รถยนต์นำเข้า ค. รถสามล้อส่วนบุคคล ง. รถจักรยานยนด์นำมาใช้ในหมู่บ้าน 26 รถต่อไปนี้ได้รับการยกว้นไม่ต้องจดทะเบียน ก. รถที่ผู้ผลิตหรือประกอบเพื่อจำหน่ายหรือที่ผู้นำเข้าเพื่อจำหน่าย ผลิต ประกอบหรือนำเจ้า และยังมิได้จำหน่ายให้แก่ผู้อื่น ข. รถสามล้อส่วนบุคคล ค. รถจักรยานยนต์นำมาใช้ในหมู่บ้น ง. รถของวัค 27 รถต่อไปนี้ได้รับกรยกว้นไม่ต้องเสียค่ธรรมเนียมเว้นแต่ก่าธรรมเนียมแผ่นป้ายทะเบียนรถ ก.รถยนต์รับจ้าง ข. รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล ค. รถดับเพลิง ง. รถตู้ส่วนบุคคล 28 รถต่อไปนี้ได้รับการยกว้นไม่ต้องเสียค่าธรรมเทียมว้นแต่ค่าธรรมเทียมแผ่นป้ายทะเบียนรถ ก. รถพยาบาลที่มิใช่เป็นรถสำหรับรับจ้าง ข. รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล ค. รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล ง. รถตู้ส่วนบุคคล 29 รถต่อไปนี้ได้รับการยกว้นไม่ต้องเสียค่ธรรมเทียมว้นแต่ค่าธรรมเทียมแผ่นป้ายทะเบียนรถ ก. รถตู้ส่วนบุคคล ข. รถของมูลนิธิ ค. รถของวัด ง. รถของกระทรวง ทบวง กรม เทศบาล องค์การบริหารส่วนจังหวัด สุขาภิบาล กรุงเทพมหานคร เมืองพัทยา และราชการ ส่วนท้องถิ่นที่เรียกชื่ออย่างอื่น ทั้งนี้ เฉพาะรถที่มีได้ใช้ในทางการค้าหรือกำไร 30 รถต่อไปนี้ได้รับการยกว้นไม่ต้องเสียค่าธรรมเทียมว้นแต่ค่าธรรมเทียมแผ่นป้ายทะเบียนรถ ก. รถบคถนนของเอกชน ข. รถบดของรัฐวิสาหกิจ ค.รถแทรกเตอร์ของเอกชน ง. รถแทรเคอร์ส่วนบุคคล เฉลยแนวข้อสอบ : ค. สำเนาภาพถ่ายใบคู่มือจด ข. 7 วัน ค. 15 วัน ข. จำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ข. 1 ปี ค. ปรับไม่เกินสองพันบาท ก. ร้อยละ 1 ต่อเดือน ก. 15 วัน ก. 7 วัน ก. 3 เดือน ง. 7 ปี ข. 15 วัน ง. 5 ปี ก. รถยนต์ รถจักรยานยนต์ รถพ่วง รถบดจนห รถแทรกตอร์ และรถอื่นที่กำหนดในกฎกระทรวง ง. รถสาธารณะ รยนต์บริการ และรถยนต์ส่วนบุคคล ก. รถที่เดินรถกำลังเครื่องยนต์หรือกำลังไฟฟ้าและมีล้อไม่เกินสองล้อ ถ้ามีถ่วงข้างมีล้ออีกไม่เกินหนึ่งล้อ ข. รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล ค. รถยนด์บรรทุกคนโดยสารหรือให้เช่าซึ่งบรรทุกคนโดยสารไม่เกินเจ็ดคน ก. รถที่ โคมไฟหน้าไม่ติด ก. รถต้องมีอุปกรณ์ส่วนควบถูกต้องและผ่นการตรวจสภาพรถ ค. รถสำหรับเฉพาะพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ข.รถของกรมตำรวจที่จดทะเบียนและมีเครื่องหมายตามระเบียบที่อธิบดีกำหนด ง. ทุกข้อถูกต้อง ก. รถที่เจ้าของรถแจ้งการไม่ใช้รถ ก. รถที่ผู้ผลิตหรือประกอบเพื่อจำหน่ายหรือที่ผู้นำเข้าเพื่อจำหน่าย ผลิต ประกอบหรือนำเจ้า และยังมิได้จำหน่ายให้แก่ผู้อื่น ค. รถดับเพลิง ก. รถพยาบาลที่มิใช่เป็นรถสำหรับรับจ้าง ง. รถของกระทรวง ทบวง กรม เทศบาล องค์การบริหารส่วนจังหวัด สุขาภิบาล กรุงเทพมหานคร เมืองพัทยา และราชการส่วนท้องถิ่นที่เรียกชื่ออย่างอื่น ทั้งนี้ เฉพาะรถที่มีได้ใช้ในทางการค้าหรือกำไร ข. รถบดของรัฐวิสาหกิจ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ: Facebook : สอนขับรถพร้อมสอบใบขับขี่ที่ ไอดี ไดร์ฟเวอร์ Line : @iddrives (มี@ข้างหน้า) โทรศัพท์ : 098-2610126 หรือ 0934083377 อีเมล : contact@iddrives.co.th
660 1 ส.ค. 2568, 12:26